นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย(พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า จากการฟังซีดีบันทึกเสียงการสนทนา 2 พยานปากเอกในคดียุบพรรคไทยรักไทย(ทรท.) ที่ออกมาเปิดเผยว่าถูกแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ให้ใส่ร้ายพรรคไทยรักไทยนั้น สรุปได้ว่าการที่พยานทั้ง 2 คนต้องให้การใส่ร้ายพรรคไทยรักไทยเนื่องจากมีเหตุจูงใจหลายประการ และเชื่อว่าเรื่องนี้มีมูล
ประการแรก มีการรับรองว่าจะให้ความช่วยเหลือเรื่องความปลอดภัย ประการที่ 2 จะได้รับความช่วยเหลือด้านคดีความ ประการที่ 3. จะได้รับค่าตอบแทนจำนวน 15 ล้านบาท โดยทยอยจ่ายเป็นงวดและให้ก่อน 1 แสนบาท และประการที่ 4.มีการสัญญาว่าหากพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลจะให้ตำแหน่งอื่นๆ และให้ลงสมัครส.ส.ด้วย
"โดยส่วนตัวเชื่อว่ามีมูล และกรรมาธิการฯ จะหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ให้กระจ่าง เพราะกระทบต่อหลายฝ่าย แต่จะต้องรับฟังจากพยานทั้ง 2 คน โดยตรงก่อน" นายประชา กล่าว
สำหรับการประชุมคณะกรรมาธิการฯ ครั้งหน้าในวันที่ 9 ธ.ค. จะเชิญพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย และ พล.ต.ต.มณเฑียร ประทีปะวณิช สมาชิกพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นคนนำนายสุขสันต์ ชัยเทศ อดีต ผอ.พรรคพัฒนาชาติไทย และนายชวการ โตสวัสดิ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพัฒนาชาติไทย 2 พยานปากเอกในคดียุบพรรคไทยรักไทย, นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์, ตัวแทนคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) และตัวแทนศาลรัฐธรรมนูญ เข้ามาชี้แจงข้อมูลต่อกรรมาธิการฯ ด้วย
"หากนายสุเทพ มาไม่ได้ก็ให้ชี้แจงมาเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ก็ขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ของตัวท่านเองว่าจะรักษาสิทธิหรือไม่ และจะเปิดให้สื่อมวลชนรวมทั้งตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆ เข้ารับฟังด้วย" นายประชา กล่าว
ด้านนายโกวิทย์ ธารณา ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กรรมาธิการยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า กรณีนี้หากเป็นเรื่องจริงถือว่าสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ของพรรคไทยรักไทยถูกรังแก และตนยอมไม่ได้ที่เล่นการเมืองกันแบบเอาเป็นเอาตายแบบนี้ ถ้าเป็นเรื่องจริงก็คงอยู่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ เพราะรับไม่ได้เช่นกัน