นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุรัฐบาลไม่ได้ซื้อเวลากรณีการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เกิดเหตุสะดุดกลางคันเนื่องจากฝ่ายค้านถอนตัวไม่ยอมเข้าร่วมดำเนินการต่อ หากดำเนินการต่อไปเมื่อมีการเลือกตั้งใหม่ก็จะเกิดปัญหาอีกเพราะไม่ยอมรับกฎกติกาดังกล่าว
"ไม่อยากให้มองว่ารัฐบาลซื้อเวลา เพราะเมื่อได้ยินแล้วรู้สึกตกใจ ความจริงหากฝ่ายค้านมาร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญก็คงสามารถเดินหน้าไปได้แล้ว แต่หากไม่มาร่วมเมื่อถึงการเลือกตั้งครั้งหน้าก็จะมีปัญหาอีก เพราะไม่ยอมรับกติกาใหม่ที่เกิดขึ้น" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองจำเป็นต้องใช้เวลา เพราะเป็นเรื่องที่มีความเปราะบาง ซึ่งด้านหนึ่งคือการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยฝ่ายความมั่นคงต้องทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งในการรักษาความสงบเรียบร้อย แต่อีกด้านหนึ่ง ประชาชนเริ่มมีการแสดงออกชัดเจนว่าไม่อยากเห็นความวุ่นวายทางการเมืองหรือความขัดแย้ง ซึ่งรัฐบาลพร้อมรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย และเมื่อดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จเรียบร้อยแล้วจะตกลงอย่างไรก็ไม่มีปัญหา
ส่วนการเลือกตั้งใหม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากไม่มีความวุ่นวายและทุกฝ่ายมาร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญวางกติกาให้ชัดเจน และปีหน้าเศรษฐกิจไทยก็จะดีขึ้น การที่ฝ่ายค้านไม่ให้ความร่วมมือในการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็อาจตีความมองได้ว่า เป็นเรื่องที่ต้องการสิ่งอื่นมากกว่าประชาธิปไตย หรือเป็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวให้กับบางคนมากกว่า
"ต้องทำให้ฝ่ายค้านเปลี่ยนใจเข้าร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยประชาชนต้องช่วยทำให้เปลี่ยนใจด้วย ซึ่ง 6 ประเด็นที่จะมีการแก้ไขในรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เป็นของรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน แต่เป็นเรื่องที่คณะกรรมการสมานฉันท์ฯ และทุกฝ่ายตกลงกัน และควรทำประชามติ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีประชาชนจำนวนมากไม่ยอมรับ ควรใช้ประชามติเป็นตัวนำในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นข้อเรียกร้องที่พูดกันมานานจึงควรทำให้เกิดความเรียบร้อย หากพรรคเพื่อไทยไม่มาร่วม การเดินหน้าต่อก็ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ทางวิปรัฐบาลและคณะทำงานจะทำงานต่อไป