ปอร์ฟิริโอ โลโบ ผู้สมัครจากพรรคฝ่ายค้าน เตรียมที่จะก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของฮอนดูรัส หลังจากผลการเลือกตั้งเบื้องต้นที่ประกาศโดยคณะกรรมการเลือกตั้งกลางชี้ว่า เขาได้รับคะแนนเสียง 51% ในการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
โลโบมีคะแนนทิ้งห่างคู่แข่งฝ่ายรัฐบาล เอลวิน ซานโตส จากพรรคลิเบอรัล ที่ได้คะแนนโหวตไปเพียง 34%
ก่อนหน้านี้ ผลการสำรวจหน้าคูหาเลือกตั้ง หรือ เอ็กซิทโพลจากทุกสำนักก็ชี้ว่าโลโบมีคะแนนนำโด่งเช่นกัน
ทั้งนี้ ฮอนดูรัสได้จัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีขึ้นเมื่อวานนี้ โดยเกิดขึ้น 5 เดือนหลังจากที่อดีตประธานาธิบดีมานูเอล เซลายา ถูกโค่นลงจากอำนาจด้วยการปฏิวัติรัฐประหารเมื่อเดือนมิ.ย.
อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกคัดค้านจากผู้นำหลายประเทศในละตินอเมริกา อาทิ เอกวาดอร์ ที่ตั้งข้อสงสัยว่า ผลการเลือกตั้งมาจากกระบวนการที่ทุจริต เนื่องจากจัดขึ้นโดยรัฐบาลเผด็จการ และประธานาธิบดีเซลายาที่ถูกโค่นอำนาจ รวมถึงโรแบร์โต มิเคเลตติ รักษาการณ์ประธานาธิบดีไม่ได้ร่วมลงชิงชัยด้วย
ด้านประธานาธิบดี ฮูโก ชาเวซ ของเวเนซูเอลา ก็ประกาศว่า รัฐบาลของเขาจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งของฮอนดูรัส พร้อมทั้งกล่าวการเลือกตั้งดังกล่าวเป็นเรื่องตลก
“เราจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งไม่ว่าจะออกมาเป็นแบบไหน สำหรับเรา ประธานาธิบดีฮอนดูรัสยังคงเป็นมานูเอล เซลายาคนเดียวเท่านั้น" ชาเวซกล่าว
เช่นเดียวกับ ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิล ที่กล่าวว่า บราซิลจะไม่ทบทวนท่าทีที่มีต่อการเลือกตั้งของฮอนดูรัส และจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งเช่นกัน
“มันเป็นสัญญาณอันตรายมากที่ประธานาธิบดีมานูเอล เซลายา ไม่ได้รับอนุญาตให้กลับเข้าประเทศ"
ทั้งนี้ เซลายาถูกโค่นอำนาจเมื่อวันที่ 28 มิถุนายนและถูกขับไล่ไปยังคอสตาริก้า แต่ต่อมาเมื่อปลายเดือนก.ย. เซลายา ได้แสดงความประหลาดใจให้กับทุกฝ่ายด้วยการเดินทางกลับประเทศและเข้าไปลี้ภัยในสถานทูตบราซิลในกรุงเตกูซิกัลปา เมืองหลวงของฮอนดูรัส จนถึงปัจจุบัน โดยผู้นำบราซิลกล่าวว่า เซลายาสามารถพำนักอยู่ในสถานทูตบราซิลตราบเท่าที่ชีวิตของเขาปลอดภัย