ผลการหยั่งเสียงเบื้องต้นของคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐ บ่งชี้ว่า วุฒิสมาชิกส่วนใหญ่เทคะแนนเสียงสนับสนุนเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดเป็นสมัยที่ 2 โดยคณะกรรมาธิการฯจะลงคะแนนเสียงแต่งตั้งเบอร์นันเก้อย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีนี้ เนื่องจากเบอร์นันเก้จะครบวาระการดำรงตำแหน่งประธานเฟดในวันที่ 31 ม.ค.2553
รายงานระบุว่า วุฒิสมาชิก 8 คนจากพรรคเดโมแครต และ 4 คนจากพรรครีพับลิกัน จากคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาทั้งหมด 23 คนที่ทำหน้าที่กำกับดูแลธนาคารกลางสหรัฐ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นก่อนที่จะมีการลงคะแนนเสียงอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีนี้ โดยวุฒิสมาชิกหลายคนในจำนวนนี้ยืนยันว่าพวกเขาจะสนับสนุนเบอร์นันเก้ ขณะที่บางคนกล่าวว่าพวกเขาพอใจในความพยายามของเบอร์นันเก้ ด้านนายคริสโตเฟอร์ ดอดด์ ประธานคณะกรรมาธิการฯกล่าวชื่นชมว่า เบอร์นันเก้ทุ่มเทการทำงานและมีผลงานที่โดดเด่น พร้อมกับแสดงความไม่พอใจที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐวิพากษ์วิจารณ์บทบาทของเฟดในการแก้วิกฤตการณ์การเงิน ขณะที่นายจัดด์ เกร็กก์ วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกันกล่าวว่า เขาจะลงคะแนนเสียงสนับสนุนเบอร์นันเก้อย่างแน่นอน
ในช่วงปลายเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ได้เสนอชื่อเบอร์นันเก้ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดเป็นสมัยที่ 2 เพราะเห็นว่าเบอร์นันเก้สามารถรับมือกับวิกฤตการณ์ในระบบการเงินด้วยความสุขุมรอบคอบและมีสติปัญญา นอกจากนี้ โอบามามองว่าเบอร์นันเก้มีแนวคิดและดำเนินการแบบ 'นอกกรอบ' โดยไม่พันธนาการตัวเองไว้กับระบบเก่าๆ จึงทำให้สหรัฐอเมริการอดพ้นจากวิกฤตการณ์รุนแรง
หลังจากโอบามาเสนอชื่อเบอร์นันเก้ได้ไม่นานก็มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐหลายคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเฟด โดยระบุว่าเฟดขาดการบริหารจัดการที่รัดกุม รวมถึงการนำเงินภาษีราษฎรไปอุ้มกิจการสถาบันการเงินที่ประสบปัญหา
อย่างไรก็ตาม การที่โอบามาตัดสินใจเสนอชื่อเบอร์นันเก้ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดอีกสมัยนั้น ได้รับการตอบรับจากนักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์เป็นอย่างดี รวมถึงพอล ครุกแมน นักเศรษฐศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ประจำปี 2551 ที่กล่าวว่าเบอร์นันเก้สมควรได้รับการไว้วางใจให้ทำหน้าที่เป็นประธานอีกสมัย เนื่องจากเบอร์นันเก้ประสบความสำเร็จในการรับมือกับวิกฤตการณ์การเงิน รวมถึงการตัดสินใจอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเป็นวงเงินสูงถึง 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งทันเวลาและได้ผล นอกจากนี้ เบอร์นันเก้ยังทำในสิ่งที่ประธานเฟดคนอื่นๆไม่เคยทำ คือลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0-0.25% เพื่อพยุงเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น
เบอร์นันเก้ ซึ่งมีชื่อเต็มว่า เบน ชาโลม เบอร์นันเก้ จบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์ในปี 2518 จากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด และระดับปริญญาเอกสาขาเศรษฐศาสตร์ในปี 2522 จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเสตส์ (เอ็มไอที) ได้รับการเสนอชื่อจากอดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดต่อจากนายอลัน กรีนสแปนในปีพ.ศ.2549 โดยก่อนที่จะได้รับแต่งตั้งเป็นประธานเฟดเมื่อวันที่ 1 ก.พ.2549 นั้น เบอร์นันเก้เคยดำรงตำแหน่งประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐระหว่างเดือนมิ.ย.2548 ถึงเดือนม.ค.2549
นอกจากนี้ เบอร์นันเก้เคยเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาเศรษฐศาสตร์และกิจการสาธารณะที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตันในช่วงปี 2528-2545 และเคยเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก และ เอ็มไอที