นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง ได้หารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีแล้ว กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานภาพความเป็นรัฐมนตรีกรณีถือหุ้นในบริษัทเอกชนเกิน 5% ซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่ได้มีเงื่อนไขที่จะให้นายพฤฒิชัยต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ในระหว่างนี้
วันนี้ กกต.มีมติเรื่องดังกล่าว เนื่องจากนายพฤฒิชัยถือหุ้นของบริษัท ครัวราสเบอรี่ จำกัด จำนวน 200 หุ้น จากจำนวนหุ้นทั้งหมด 1,000 หุ้น คิดเป็น 20% และหุ้นของบริษัท อีสเทอร์น ดราก้อน จำกัด จำนวน 450,000 หุ้น จากจำนวนหุ้นทั้งหมด 4 ล้านหุ้น คิดเป็น 11.25% ซึ่งเป็นการถือหุ้นเกินกว่า 5% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมานายพฤฒิชัยไม่ได้ระบุวัตถุประสงค์ว่าจะได้รับประโยชน์จากการเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในบริษัททั้ง 2 แห่ง ภายใน 30 วันนับจากวันที่ได้รับการแต่งตั้ง ซึ่งเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 269 ประกอบมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2543 อันเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 182(7) ซึ่งจะส่งสำนวนให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาดต่อไป
อย่างไรก็ดี คงต้องรอฟังคำวินิจฉัยท้ายสุดจากศาลรัฐธรรมนูญว่าจะให้นายพฤฒิชัยสามารถปฏิบัติหน้าที่ รมช.คลัง ได้ต่อไปหรือไม่
นายกรณ์ กล่าวว่า นายพฤฒิชัยได้ชี้แจงว่าการถือหุ้นของ 2 บริษัทเป็นการเข้าถือหุ้นอยู่ในบริษัทที่ไม่ได้มีการทำธุรกรรมมาหลายปีแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการชำระบัญชีเพื่อปิดบริษัท ซึ่งนายพฤฒิชัยมั่นใจว่าจะสามารถชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ว่าไม่มีเจตนาปกปิดหรือถือหุ้นเพื่อมีธุรกรรมที่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน ดังนั้นคงต้องให้โอกาสนายพฤฒิชัยได้ชี้แจงและรอฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
"ก็คงต้องให้โอกาสนายพฤฒิชัย เพราะไม่เห็นว่ามีการกระทำใดๆ ที่ก่อให้เกิดความเสียหาย คงต้องรอคำวินิจฉัยของศาล เพราะถ้าเป็นการถือหุ้นที่เกี่ยวกับรัฐก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่จากข้อมูลก็ไม่เห็นว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน และอาจเป็นประเด็นทางเทคนิคที่ต้องรอการพิจารณาจากศาล" นายกรณ์ ระบุ
รมว.คลัง กล่าวด้วยว่า นายพฤฒิชัย พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญไม่ว่าจะออกมาในทางใดก็ตาม
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ลงมติให้ นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี เนื่องจากถือครองหุ้นในบริษัทเกินกว่า 5% ตามที่กฎหมายกำหนดไว้
"เรื่องนี้เป็นปัญหามาตั้งแต่ต้น เป็นเรื่องของหุ้นบริษัทที่อยู่ระหว่างชำระบัญชี" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) หรือแม้กระทั่งการเรียกร้องให้ นพ.พฤฒิชัย แสดงความรับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว