นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า นางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดานายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยที่ถูกทางการกัมพูชาควบคุมตัว ตัดสินใจเปลี่ยนตัวทนายความที่ดูแลคดีลูกชายจากคนเดิมที่กระทรวงการต่างประเทศจัดหาให้มาเป็นคนใหม่ที่เพื่อนของลูกชายแนะนำ รวมทั้งตัดสินใจยกเลิกการขอประกันตัวตามที่ทนายคนเดิมยื่นเรื่องไว้ก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ทนายความคนใหม่เป็นชาวกัมพูชาชื่อนายเขียว สัมโบ เป็นทนายความที่มีความเชี่ยวชาญคดีในลักษณะนี้ และหลังจากที่นางสิมารักษ์ได้หารือกับทนายความคนใหม่แล้วได้ตกลงจะยื่นคำร้องขอยกเลิกการประกันตัว เพื่อให้คดีเดินหน้าไปด้วยความรวดเร็ว โดยนางสิมารักษ์จะเดินทางไปกัมพูชาอีกครั้งในวันที่ 7 ธ.ค. พร้อมกับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อฟังผลการตัดสินคดีในวันที่ 8 ธ.ค.
อย่างไรก็ดี หากมีการตัดสินออกมาว่านายศิวรักษ์ไม่มีความผิดก็จะพาบุตรชายเดินทางกลับประเทศไทยทันทีและให้บวชตามที่ตั้งใจไว้ แต่หากปรากฏว่ามีความผิดก็จะดำเนินการขอพระราชทานอภัยโทษ โดยนางสิมารักษ์จะขอให้ทุกฝ่ายช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นจากรัฐบาล หรือจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย
นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ และที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เหตุผลสำคัญที่นางสิมารักษ์ตัดสินใจขอถอนเรื่องการยื่นประกันตัวเพราะเห็นว่าใกล้จะถึงวันตัดสินคดีแล้ว จึงอยากให้มีการตัดสินเป็นเด็ดขาดในวันที่ 8 ธ.ค.เกรงว่าหากทำการประกันตัวอาจจะมีการไต่สวนของศาลเพิ่มเติม
สำหรับการตัดสินคดีในวันที่ 8 ธ.ค.นั้น หากผิดถูกอย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณ รวมทั้ง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ พร้อมจะให้ความช่วยเหลือจนตลอดรอดฝั่ง และหากผลการตัดสินออกมาว่านายศิวรักษ์ มีความผิดจริงเชื่อว่านางสิมารักษ์ และทนายความจะไม่ยื่นเรื่องขออุทธรณ์ แต่จะกราบบังคมทูลขอพระราชทานอภัยโทษ เพราะนางสิมารักษ์ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกชายได้กลับบ้านโดยเร็วที่สุด หากทำการอุทธรณ์จะต้องอยู่ในการควบคุมตัวต่อไป ในขั้นตอนของการขอพระราชทานอภัยโทษนั้น หากต้องทำจริงๆ เบื้องต้นทนายความจะเป็นคนดำเนินการก่อน จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ และ พล.อ.ชวลิต ก็จะประสานทางการกัมพูชาขอพระราชทานอภัยโทษให้