เจ้าหน้าที่ขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และสหภาพยุโรป (อียู) ได้ออกมาขานรับกับการประกาศของสหรัฐที่ว่า ก๊าซเรือนกระจกเป็นภัยต่อสุขภาพของประชาชน ขณะที่โฆษกของอียูมองว่า ประกาศดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงระดับของการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศของนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ
การประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก ที่จัดโดยสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เป็นเวลา 12 วัน เปิดฉากขึ้นที่กรุงโคเปนเฮเกนของเดนมาร์ก เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยนายลาร์ส ล็อคเค ราสมุสเซน นายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก กล่าวว่า การประชุมสุดยอดครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ทั่วโลกได้มีส่วนร่วม
ทั้งนี้ การแสดงความเห็นของสหรัฐอาจจะปูทางไปสู่คำสั่งลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยไม่ต้องขออนุมัติจากสภาคองเกรสโดยสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐ
ราเจนทรา แพเชารี ประธานเครือข่ายวิทยาศาสตร์ด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศของยูเอ็น กล่าวว่า คณะทำงานของนายโอบามาแสดงให้เราเห็นว่าสหรัฐสามารถทำอะไรได้บ้าง แม้ว่ากฎหมายจะยังอยู่ในขั้นตอนของการขออนุมัติอยู่ก็ตาม นอกจากนี้ การประกาศท่าทีของสหรัฐยังเป็นการส่งสัญญาณที่ทรงพลังไปยังสภาคองเกรสด้วยเช่นกัน
ทางด้านรัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมของสวีเดน ในฐานะที่ปัจจุบันสวีเดนทำหน้าที่ประธานหมุนเวียนของอียูอยู่นั้น กล่าวว่า ผลการประชุมส่วนใหญ่เรียกได้ว่า ขึ้นอยู่กับนโยบายของสหรัฐและจีน