นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยถูกศาลกัมพูชาพิพากษาจำคุก 7 ปี ว่า บุคคลที่น่าเห็นใจมากที่สุดขณะนี้ คือตัวนายศิวรักษ์เอง ที่มีบุคคลบางกลุ่มนำมาเป็นประเด็นทางการเมือง ซึ่งความจริงแล้วนายศิวรักษ์ ควรมีโอกาสในการต่อสู้ในเรื่องของคดีให้ถึงทีสุด เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม เห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเพียงการเกี่ยวโยงให้เป็นประเด็นทางการเมือง ขณะที่ญาตินายศิวรักษ์และพรรคเพื่อไทย ใช้ช่องทางความสัมพันธ์ส่วนตัว เพื่อยื่นขอพระราชทานอภัยโทษต่อกษัตริย์กัมพูชานั้น เป็นที่น่าแปลกใจว่าเหตุใดจึงไม่ใช้ช่องทางของกระทรวงการต่างประเทศซึ่งเป็นหลักสากลที่ยึดปฏิบัติกันทั่วโลก
นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณีที่นางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดาของนายศิวรักษ์ ออกมาให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนว่า การใช้ช่องทางช่วยเหลือผ่าน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และสมเด็จฮุนเซนนั้น น่าจะสะดวกและได้ผลมากกว่าการใช้ช่องทางของกระทรวงการต่างประเทศ ว่า การยื่นขอพระราชทานอภัยโทษเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศที่พึงปฏิบัติต่อประเทศเพื่อนบ้านตามหลักสากล จึงตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดมารดานายศิวรักษ์กลับใช้ฐานะบุคคลมายื่นหรือดำเนินการในเรื่องดังกล่าว