นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า เป็นหน้าที่ของกองทัพที่จะต้องไปตรวจสอบถึงวัตถุประสงค์ที่แน่ชัดในการที่พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก นำทหารพรานออกมาเป็นการ์ดรักษาความปลอดภัยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่าถือเป็นการแสดงตามสิทธิเสรีภาพตามกฎหมายหรือจะผิดต่อระเบียบของทางราชการหรือไม่
"ต้องให้ทางกองทัพไปดูแล เพราะขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าทหารพรานที่มากับพล.ต.ขัตติยะ เป็นทหารพรานจริงหรือไม่ และมาด้วยวัตถุประสงค์ใด ถ้าจะเอาทหารพรานมาสู้กับทหารหลักหรือสู้กับตำรวจ คงเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย แต่ถ้าแค่แต่งตัวแล้วมาเดิน ใครจะว่าอะไรเขาได้ เราต้องดูพิสูจน์กันอีกครั้ง"นายสุเทพ ระบุ
พร้อมกันนี้ ยังไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดงที่เมื่อวานนี้(10 ธ.ค.) ส่วนรัฐบาลก็มีหน้าที่จะเริ่มจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ต่อหลังจากที่เว้นไปเมื่อวานนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นการแสดงออกถึงสัญญาณบางอย่างหรือไม่ว่าในกองทัพก็มีคนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เขาพยายามทำไปเรื่อย พวกนี้พยายามสร้างความสับสนให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองทุกวงการ เพราะมีเป้าหมายใหญ่ของอยู่แล้วที่จะล้มล้างรัฐบาล เปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองต่างๆ พยายามทำอยู่แล้วด้วยการสร้างความสับสนให้เกิดขึ้น อย่าไปตื่นตระหนกตกใจอะไร ปฏิบัติไปตามกฎเกณฑ์กติกาของกฎหมาย และใช้กฎหมายในการแก้ไขปัญหา
ส่วนท่าทีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระยะหลังที่ค่อนข้างชัดเจนว่าต้องการเจรจาหาทางออก หรือหาทางสมานฉันท์นั้น รัฐบาลมองว่ามีความจริงใจหรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมที่จะสมานฉันท์กับทุกฝ่าย ทุกคนอยู่แล้ว แต่สมานฉันท์ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ต้องเคารพกฎหมาย
"บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการมาสมานฉันท์กับรัฐบาล แต่ต้องไม่ติดคุก แล้วรัฐบาลจะไปกลับคำพิพากษาของศาลได้อย่างไร หรือให้มาสมานฉันท์กับรัฐบาลแต่ต้องไม่ดำเนินคดีความ อย่างนี้ก็ทำไม่ได้" รองนายกรัฐมนตรี กล่าว