นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมในพื้นที่ต่างๆ โดยประท้วงขับไล่รัฐมนตรีที่ลงพื้นที่พบปะประชาชนว่า การชุมนุมสามารถทำได้ แต่ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นที่คาดการณ์แล้วว่า หลังปีใหม่จะชุมนุมกันมากขึ้น ซึ่งเป็นการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองให้สอดคล้องกับบรรยากาศ ที่จะเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร และฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล รัฐบาลไม่มีปัญหาเรื่องการชุมนุม แต่ไม่ต้องการให้การชุมนุมส่งผลกระทบต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และบรรยากาศโดยรวมที่ดีขึ้นมาก จากการที่คนไทยได้ร่วมกันเฉลิมฉลองวันมหามงคลในเดือนธันวาคม
"เราพยายามเต็มที่ที่จะดูแลความเรียบร้อย รวมทั้งการพิจารณาความจำเป็นการใช้เครื่องมือ หรือกฎหมายที่เหมาะสม หากไม่มีอะไรก็จะใช้กฎหมายปกติ แต่ถ้ามีแนวโน้มไม่ดี ก็ต้องใช้กฎหมายตามความเหมาะสม ซึ่งรัฐบาลเคยใช้มาแล้ว ส่วนเรื่องการเจรจากับแกนนำของกลุ่มคนเสื้อแดงที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ต่างๆ มีกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรจังหวัด (กอ.รมน.จังหวัด) ซึ่งได้รับมอบนโยบายไปแล้ว โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายที่ชัดเจนว่า จะไม่นำการเมืองเข้ามาดูแลหรือเกี่ยวข้องกับการรักษาความมั่นคง แต่จะให้หน่วยงานทำงานเต็มที่ จัดระบบและดูแลความเรียบร้อย"นายปณิธาน กล่าว
ทั้งนี้กรณีที่กลุ่มเสื้อแดงชุมนุมหลายพื้นที่ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีไม่อยู่ในประเทศไทย นายปณิธาน กล่าวว่า เป็นความเคลื่อนไหวต่อเนื่อง และพยายามที่จะสร้างเอกภาพและระบบขึ้นมาใหม่ หลังเกิดปัญหาภายในกลุ่มแกนนำคนเสื้อแดงหลายกลุ่มเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อาจเป็นหนึ่งในขวัญกำลังใจของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งรัฐบาลจับตาดูอยู่ และจะดำเนินการตามกรอบของกฎหมาย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ
เมื่อถามย้ำว่า จะเกิดผลกระทบต่อรัฐบาลหรือไม่ เพราะกลุ่มเสื้อแดงย้ำตลอดว่า จะโค่นล้มรัฐบาลให้ได้ นายปณิธาน กล่าวว่า ถ้าการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยก็ไม่มีปัญหา แต่การใช้กำลัง ความรุนแรง โดยประกาศว่าจะทำอะไรให้เกิดความสับสน ก็ต้องดูกฎหมายและเงื่อนไขตามความเป็นจริง เพื่อดำเนินการตามความเหมาะสม ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามอย่างใกล้ชิด และหลังปีใหม่ไปแล้ว คงต้องเฝ้าระวังเพิ่มมากขึ้น
ส่วนการเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ หากเป็นเรื่องคดีความคงเป็นเรื่องยาก เพราะเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม รัฐบาลไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ แต่เรื่องอื่น ๆ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้รับความเป็นธรรม เราก็ยินดีรับฟัง แต่ต้องเป็นตามกระบวนการยุติธรรม คือ ต้องรับโทษก่อน
โดยกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางเข้ากัมพูชา เป็นการท้าทายว่ารัฐบาลไม่สามารถนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มาดำเนินคดีได้ นายปณิธาน กล่าวว่า เป็นสิทธิของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่การที่เดินทางเข้ากัมพูชาแล้วทำให้เกิดความรู้สึกในหมู่คนไทย และเกิดผลกระทบในความสัมพันธ์ เป็นสิ่งที่ไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอีก