นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ข้อเสนอของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ให้มีการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ภายใต้กติกาของรัฐธรรมนูญปี 40 และให้ลงสัตยาบันยอมรับผลการเลือกตั้ง โดยทุกฝ่ายต้องมีข้อตกลงว่าจะไม่ทำให้บ้านเมืองเกิดปัญหาอีก ถือเป็นข้อเสนอที่ดี
ส่วนเรื่องการนำรัฐธรรมนูญฉบับ 40 มาใช้ โดยหลักการสามารถนำกลับมาใช้ได้ แต่การได้มาจะมาจากไหน ซึ่งมีวิธีการที่ทำให้ถูกต้องตามกฎหมายได้ คงต้องมาหารือกัน
สำหรับเงื่อนไขความต้องการที่จะมาเจรจา ไม่ตรงกับข้อเสนออื่นๆของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ และอาจจะเกิดการลักลั่นกันนั้น นายดิเรก กล่าวว่า ข้อเสนอกรอบเรื่องการสร้างสมานฉันท์พูดถึงการเจรจาชัดเจน เพียงแต่เงื่อนไขที่ต่างฝ่ายต้องการ จะนำมาสู่การยุบสภาหรือไม่ คงต้องขึ้นอยู่ที่เจรจาต่อรองกัน ซึ่งข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ กรอบ 2 และ 3 ว่าด้วยการปฏิรูปการเมืองและแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีการเสนอว่า หลังจากแก้รัฐธรรมนูญ 6 ประเด็นแล้ว ให้แก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับเพื่อให้ได้ฉบับที่มาจากประชาชนจริงๆ
ทั้งนี้ เรื่องนี้ไม่จำเป็นจำเป็นต้องอาศัยคนกลางดำเนินการ หากนายกรัฐมนตรีชูธงให้เดินหน้า เชื่อว่าทำได้เลย ฝ่ายรัฐบาลเชิญผู้ใหญ่ฝ่ายตนเองมาเป็นตัวแทน ฝ่ายค้านก็เชิญผู้ใหญ่มาหารือกันว่ การร่วมกันเดินหน้ามีความเป็นไปได้อะไรบ้าง หรืออาจเชิญพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีมาฟังได้ หรือคนอื่นๆมาร่วมรับฟังด้วย และเรื่องนี้คณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ก็พร้อมจะไปร่วมฟัง
นายดิเรก กล่าวถึงการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ต้องการให้ถูกดำเนินคดีและยึดทรัพย์จะทำให้หลักนิติรัฐของประเทศเสียไปนั้น เห็นว่า ยังไม่คิดเวลาที่จะคิดถึงขั้นนั้น แต่ฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล ควรนำสิ่งที่ตนเองต้องการมาหารือกันก่อน แล้วมาถกเถียงต่อรองโดยไม่ตั้งเงื่อนไข เพื่อให้เรื่องยุติ และสามารถทำให้ถูกกฎหมายได้ เช่นร่างกฎหมายความปรองดองแห่งชาตินั้น อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ถูกหยิบขึ้นมาพิจารณากันได้ ซึ่งก็ถูกต้องตามกรอบของกฎหมาย