นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะเข้าไปดูแลเรื่องผลสอบเอกสารลับของกระทรวงการต่างประเทศรั่วไหล แต่ยอมรับการดำเนินการเรื่องนี้ไม่ง่าย เพราะอาจไม่ใช้วิธีคนนำสาร แต่ใช้วิธีส่งอีเมล์ หรือส่งแฟกซ์
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เอกสารที่กระทรวงการต่างประเทศทำถึงนายกรัฐมนตรีมีจริง แต่ต้องตรวจสอบว่าการนำข้อมูลไปเปิดเผยต่อสาธาณชนของนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) มีการบิดเบือนส่วนไหน อย่างไร รวมทั้งตรวจสอบว่า เอกสารดังกล่าวหลุดไปได้อย่างไร เพราะเป็นเอกสารที่ รมว.ต่างประเทศ ทำถึงนายกรัฐมนตรีโดยตรง ทำให้มีช่องทางที่มีผู้เกี่ยวข้องไม่มาก
ส่วนกรณีที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย เสนอความเห็นให้ไทยฟ้องสหประชาชาติ(UN) กรณีที่สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาระบุว่าไทยมีแผนโค่นล้มรัฐบาลกัมพูชานั้น นายปณิธาน กล่าวว่า ไทยไม่เคยคิดปองร้ายประเทศเพื่อนบ้าน เอกสารดังกล่าวที่ออกมาเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา แต่เอกสารที่กัมพูชาได้รับยังไม่รู้เป็นของจริงหรือไม่ และผู้เชี่ยวชาญของกัมพูชามีโอกาสตรวจสอบเนื้อหาในเอกสารอย่างละเอียดหรือยัง เพราะขณะนี้มีปัญหาเรื่องการตีความและความไม่เข้าใจ
"ขณะนี้ยังไม่มีอะไรที่จะยกระดับเข้าไปอยู่ในกรอบพหุภาคี เพราะกระบวนการทางการทูตของแต่ละประเทศมีมาตรฐานสากลอยู่แล้ว แต่ถ้าภาคประชาชนจะส่งเรื่องร้องเรียนพฤติกรรมของประเทศสมาชิกยูเอ็นก็สามารถทำได้ ซึ่งยูเอ็นจะดูความสมัครใจของประเทศคู่พิพาทว่าจะตกลงกันเองได้หรือไม่ แต่ถ้ามีอะไรกระทบความมั่นคงของภูมิภาค ยูเอ็นจึงจะเข้ามา แต่ขณะนี้การดำเนินการทุกอย่างอยู่ภายใต้กรอบทวิภาคี" นายปณิธาน กล่าว