นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) เปิดเผยถึงฉายารัฐบาลและคณะรัฐมนตรี โดยเห็นว่า ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในยุคทุจริตลิซึ่ม เนื่องจากรัฐบาลชุดนี้มีปัญหาทุจริตเกิดขึ้นในหลายโครงการ ประกอบกับบริหารงานตลอด 1 ปีที่ผ่านมามองว่าเป็นยุคแห่งการกู้เงินสร้างหนี้สินให้แก่ประเทศจำนวนมาก จึงตั้งฉายารัฐบาลว่า "รัฐบาลกินอยู่กับปาก อยากอยู่กับเก้าอี้" เพราะมีหลายคนทุจริตมากมายแต่สุดท้ายก็ยังอยู่ในตำแหน่ง สำหรับวาทะแห่งปีคือ "ประชาชนต้องตายก่อน"
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า สำหรับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ฉายา "นายกฯ รักษาการณ์" เนื่องจากมีอำนาจบริหารแต่ขาดภาวะผู้นำ เหมือนเป็นนายกฯ รักษาการณ์ไม่มีอำนาจที่แท้จริง, นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ได้ฉายา "เจ้าคุณเละเทะ" เนื่องจากตั้งต้นทำท่าว่าจะเป็นคุณชายสะอาด แต่สุดท้ายก็เลอะเทอะ เละเทะ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ฉายา "เทือก แถได้ทุกทาง" เนื่องจากทำได้ทุกอย่างเพื่อรักษารัฐบาลให้อยู่ใช้งบได้นานที่สุดชนิดแถไปได้ทุกทาง, พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ฉายา "ท่านรองฯ ส่วนตัว" เนื่องจากจะยกตำแหน่งรัฐบาลให้กับลูกชาย เสมือนตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นสมบัติส่วนตัว, นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ได้ฉายา "รมต.กุ๊ยเหนือกุ๊ย" เนื่องจากนายกษิต ไปด่านายกรัฐมนตรีประเทศเพื่อนบ้านว่าไอ้กุ๊ยแต่สุดท้ายก็ยังอยู่ในเก้าอี้
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ได้ฉายา "กรณ์เด็กดื้อตื๊อขอกู้" เนื่องจากมีแต่กู้จนทำให้ประชาชนตั้งคำถามว่า กู้ไม่ยากแต่ตอนใช้คืนจะมีปัญหาหรือไม่นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง ได้ฉายา "อ๊อดล็อตโกอะเฮด ", นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง ได้ฉายา "ใครรีบไปก่อน..."
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ฉายา "กุมารทองขี้เหงา", นายวีระชัย วีระเมธีกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ฉายา "มีเงินเขาเรียกว่าน้อง มีทองเขาเรียกว่ารัฐมนตรี", นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ได้ฉายา "เจ๊พรสั่นสู้", นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ ได้ฉายา "มือปราบเดี้ยง", นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ฉายา "รัฐมนตรีลด ละ(เว้น)" เนื่องจากละเว้นการปฏิบัติหน้าที่กรณีที่ดินบนเขายายเที่ยงของพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี
นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ได้ฉายา "เติ้ง...พี่พ้มมม", นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รมว.ศึกษาธิการ ได้ฉายา "ของฟรีไม่มีในโลก", นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมช.ศึกษาธิการ ได้ฉายา "ป่าช้าเรียกพี่", นส.นริศรา ชวาลตันติพิพัทธ์ รมช.ศึกษาธิการ ได้ฉายา "กระจกนี้ข้าจอง"
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ได้ฉายา "ปืนใหญ่หน้ากระทรวง", นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ได้ฉายา "ลูกพี่ยี้ห้อย", นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ได้ฉายา "ร้อยลิ้นกะลาวน", นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ได้ฉายา "รัฐมนตรีขบเหลี่ยม", นายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.แรงงาน ได้ฉายา "มือปราบแรงงานซัวสะเด"
นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้ฉายา "มึนได้อีก", นายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรฯ ได้ฉายา "รัฐมนตรีทาสในเรือนเบี้ย", นายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรม ได้ฉายา "รัฐมนตรีซออู้", ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้ฉายา "คุณป้าเทคโน" นายอิสระ สมชัย รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ฉายา "รัฐมนตรีส้มหล่น"
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม ได้ฉายา "รัฐมนตรีเก้าอี้สองแสนล้าน", นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ได้ฉายา "โสภณ ณ.โทลล์เวย์", นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รมช.คมนาคม ได้ฉายา "จักษ์(น่า)เป็นห่วง", นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคม ได้ฉายา "เรือขาดพาย นายขาดบ่าว"
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ได้ฉายา "เปาบุ้นจิ้นหน้าขาว", นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข ได้ฉายา "ว.หวัดเรียกพี่", นายมานิต นพอมรบดี รมว.สาธารณสุข ได้ฉายา "รมต.หุ้นพิษ", นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน ได้ฉายา "หมอโซฮอล์ 3 G" และคุณหญิงกัลยา โสภณพานิช รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ฉายา "รัฐมนตรีเช็คของชั้น"