นายประเกียรติ นาสิมา ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคเพื่อไทย(พท.) พร้อมด้วยนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค เดินทางไปยื่นหนังสือถึงประธานวุฒิสภา โดยมีนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา เป็นผู้รับเรื่องแทน เพื่อสอบถามความคืบหน้ากรณียื่นเรื่องให้ประธานวุฒิสภาส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองดำเนินคดีประธานกรรมการและกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ทั้ง 9 คน กรณีกระทำทุจริตต่อหน้าที่และกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ซึ่งเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 249 ซึ่งได้ยื่นเรื่องดังกล่าวต่อประธานวุฒิสภาเมื่อวันที่ 16 ก.ย.52
"เกือบ 4 เดือนแล้ว แต่ยังไม่ทราบความคืบหน้าเลยว่ามีการส่งเรื่องไปยังศาลฎีกาฯ แล้วหรือยัง" นายประเกียรติ กล่าว
นายประเกียรติ กล่าวว่า การดำเนินการเรื่องดังกล่าวมีความล่าช้าเกินไป และไม่เคยได้รับทราบความคืบหน้าของกระบวนการไต่สวน โดยข้อร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ทั้ง 9 คน มี 4 ประเด็นคือ 1.กรณีที่ศาลปกครองเชียงใหม่มีคำพิพากษาถอนคำสั่งของสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจที่สั่งไล่ พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ เทพจันดา หรือ "โอ๋สืบ 6" ออกจากราชการ 2.กรณีการใช้เงินงบประมาณไม่ชอบตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 3.กรณีการตัดสินคดีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี สลายการชุมนุม 7 ตุลาฯ ที่มีการร้องขอให้ ป.ป.ช.เปิดเผยข้อมูลการวินิจฉัยโดยอาศัย พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร แต่ ป.ป.ช.ไม่ยอมเปิดเผย และ 4.กรณีรับเรื่องไว้พิจารณาซ้อนกับอำนาจของศาล ซึ่งหากศาลมีคำสั่งให้รับเรื่องนี้เข้าสู่สารบบการพิจารณาคดีของศาลจะทำให้ ป.ป.ช.ทั้งหมดต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันทีจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา
ด้านนายนิคม กล่าวว่า กรณีนี้หลังจากรับเรื่องไว้แล้ว นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ได้ตรวจสอบความครบถ้วนของรายชื่อ โดยใช้เวลาตรวจสอบ 9 วัน จากนั้นได้ส่งเรื่องไปยังศาลฎีกาฯ เมื่อวันที่ 25 ก.ย.52 ซึ่งมีการลงรับเลขที่หนังสือไว้เรียบร้อยแล้ว และตามกระบวนการศาลฎีกาฯ จะมีการตั้งองคณะขึ้นมาตรวจสอบภายใน 14 วัน โดยทางวุฒิสภาจะติดตามความคืบหน้าในเรื่องต่อไปแล้วจะแจ้งให้ทราบ