นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดง คาดว่า การนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มเสื้อแดงจะมีขึ้นในช่วงหลังตรุษจีน ซึ่งจะเป็นการนัดชุมนุมใหญ่ก่อนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีคำตัดสินเรื่องคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
"แกนนำได้กำหนดวันเป็นตุ๊กตาเอาไว้แล้ว เหลือเพียงแต่เคาะในขั้นสุดท้ายว่าจะประกาศนัดชุมนุมใหญ่เลยหรือไม่ คาดว่าจะอยู่ในห้วงเดือนก.พ. ซึ่งอาจจะหลังตรุษจีนไปแล้ว โดยจะพิจารณาจากการเสร็จภารกิจการชุมนุมที่สนามกอล์ฟเขาสอยดาว และการชุมนุมที่สนามกอล์ฟ รอยัล เชียงใหม่" นายจตุพร กล่าว
พร้อมระบุว่า การชุมนุมในครั้งนี้คนเสื้อแดงจะต่อสู้จนให้ได้รับชัยชนะ ซึ่งถือเป็นครั้งที่เดิมพันทั้งชีวิต หากพ่ายแพ้ก็มีอยู่เพียง 2 หนทาง คือ ถูกหามออกสนามรบกับการถูกจับไปขังคุกเท่านั้น ถ้าหากทางกลุ่มไม่สามารถขับไล่รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้ออกไปได้ก็จะไม่มีการชุมนุมใหญ่ครั้งที่ 2 อีก แต่อย่างไรก็ดีเชื่อว่ารัฐบาลนี้คงจะบริหารประเทศอยู่ได้อีกไม่นาน
ส่วนกรณีที่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี แกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่าจะมีทหารพรานมาร่วมงานกับคนเสื้อแดงกว่า 500 คนนั้น นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้ไม่เพียงแต่ทหารพรานเท่านั้นที่จะมาร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดง เพราะทหารหลักที่อยู่ในกองทัพก็แจ้งความจำนงจะเข้ามาร่วมงานกับคนเสื้อแดงอีกเป็นจำนวนมาก
ส่วนที่ พล.อ.พัลลภ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับประเทศไทยด้วยสถานการณ์พิเศษนั้น นายจตุพร เห็นว่า พล.อ.พัลลภ อาจจะมีการข่าวส่วนตัวก็เป็นได้
ขณะที่การยื่นญัตติเพื่อขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น ทางพรรคเพื่อไทยมีข้อตกลงแล้วว่าจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจภายหลังจากเสร็จสิ้นการชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงไปแล้ว
นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำกลุ่ม นปช. เปิดเผยว่า กลุ่ม นปช.ได้มอบหมายให้ตนและ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ช่วยกันทำหน้าที่ดูเรื่องกำลังพลที่จะมาสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง โดยวันนี้คนเสื้อแดงเตรียมพร้อมอย่างสมบูรณ์แล้ว โดยแบ่งเป็น 1.ประชาชนทั่วไปที่จะเข้ามาชุมนุมใหญ่ประมาณ 1 ล้านคน 2.กองกำลังหลายฝ่ายที่จะทำหน้าที่เป็นกองหนุนของคนเสื้อแดงซึ่งพร้อมจะเคลื่อนพลออกมาทันทีภายใน 1 ชั่วโมงหากมีการใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง และมีการกระจายกำลังอยู่ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑลไว้แล้ว ประกอบด้วยท หารพราน ตำรวจในและนอกเครื่องแบบ ประมาณ 3 หมื่นคน ขณะที่จะมีกลุ่มอดีตผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย จากภาคอีสานทั้งนครพนม สกลนครและสระแก้ว ไปจนถึงภาคใต้ก็จะมาร่วมผนึกกำลังกัน โดยล่าสุดได้มีการส่งรายชื่อมาตรวจสอบแล้วประมาณ 7-8 หมื่นคน