ศรีลังกาจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันนี้ โดยมีตัวเก็ง 2 รายจากผู้สมัครรับเลือกตั้งทั้งหมด 22 ราย คือ ประธานาธิบดีมหินทา ราชปักษา และพลเอกสารัฐ ฟอนเซกา อดีตผู้บัญชาการกองทัพซึ่งเป็นผู้นำในการสู้รบกับกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลมมาเป็นเวลานานถึง 26 ปี โดยคาดว่าจะสามารถประกาศผลการเลือกตั้งได้ในวันพุธนี้
ประธานาธิบดีราชปักษา อายุ 64 ปี ซึ่งลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 ตัดสินใจประกาศจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด 2 ปี ด้วยความหวังว่าจะอาศัยคะแนนนิยมซึ่งสืบเนื่องมาจากการที่รัฐบาลของเขามีชัยชนะเหนือกลุ่มกบฎพยัคฆ์ทมิฬอีแลมเมื่อปีที่แล้ว
ด้านพลเอกฟอนเซกา อายุ 59 ปี ได้รับการสนับสนุนจากพรรคยูไนเต็ด เนชั่นแนล พาร์ตี ซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ซึ่งประเด็นเรื่องการทุจริตในรัฐบาลถือเป็นประเด็นหลักในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งนี้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่าบทบรรณาธิการในหนังสือพิมพ์ของศรีลังการะบุว่า "ผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงมีทางเลือกที่จะปิดจมูกของตนเองแล้วเลือกรัฐบาล หรือปิดตาเพื่อเลือกฝ่ายค้าน ผู้ชนะจะต้องสวมมงกุฎที่เต็มไปด้วยหนาม และต้องยอมรับความจริงว่าเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศไม่ได้โหวดเลือกเขา
ขณะที่นักการทูตและนักวิเคราะห์มองว่า ชนกลุ่มน้อยชาวทมิฬที่ได้รับความยากลำบากจากสงครามและจำต้องเลือกใครคนใดคนหนึ่งระหว่างราชปักษาและฟอนเซกานั้น อาจเป็นผู้ชี้ชะตาการเลือกตั้งครั้งนี้
ทั้งนี้ ราชปักษาและฟอนเซกาเป็นชาวสิงหล ซึ่งคิดเป็น 75% ของประชากรศรีลังกา