พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เดินทางมาที่กองปราบปราม เพื่อพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก โดยมี พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี, พ.ต.ท.สมชาย เพสประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย, นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง, นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) และกลุ่ม นปช.เดินทางมาให้กำลังใจ
โดย พล.ต.ขัตติยะ ได้เข้าพบ พ.ต.อ.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รองผู้บังคับการกองปราบปราม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันมีและครอบครองอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย หลังเจ้าหน้าที่ตรวจยึดอาวุธสงครามได้จากบ้านพักในค่ายทหาร
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า สาเหตุที่ตนเองถูกสั่งพักราชการเพราะมีสื่อมวลชนบางฉบับบิดเบือนข้อมูลจนทำให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) เข้าใจตนเองผิด เนื่องจากก่อนวันที่ 10 ธ.ค.52 พล.อ.พัลลภ ได้เรียกตนเองไปพบ เพื่อขอให้ไปช่วยห้ามกลุ่มทหารพรานที่มาร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดงไม่ให้ไปปะทะกับทหารกำลังหลัก จนมาถึงวันที่ 14 ม.ค.53 ที่เกิดเหตุคนร้ายยิงอาวุธเอ็ม 79 เข้าไปในกองบัญชาการทหารบก(บก.ทบ.)
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการกระทำที่ไม่ชอบหลายอย่าง เมื่อคดีเข้าสู่กระบวนการเชื่อว่าน่าจะชนะ นอกจากนี้ตนเองจะแจ้งความกลับเพื่อให้ดำเนินคดีกับ ผบ.ทบ., รมว.กลาโหม และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ในข้อหาเป็นกบฎต่อราชอาณาจักร
"รัฐธรรมนูญปี 50 คือรัฐธรรมนูญโจร ถึงจะเขียนมาตรา 39 ที่เกี่ยวกับการนิรโทษกรรมขึ้นมาก็ตาม คำสั่งพักราชการของรัฐมนตรีกลาโหมที่สั่งพักราชการผมจึงถือว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบธรรม เพราะคณะรัฐบาลชุดนี้ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง เมื่อรัฐมนตรีฯจะกระทำอะไรลงไป ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเหมือนกัน" พล.ต.ขัตติยะ กล่าว
ส่วนกรณีที่ออกมาเตือนผู้พิพากษา, คตส. และ ป.ป.ช.ให้ระวังถูกลลอบฆ่านั้น พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า ไม่ได้เป็นการปล่อยข่าว แต่เหตุการณ์ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาทำให้กลุ่มคนสีแดงเก็บกด เพราะไม่ได้รับประชาธิปไตยของอำนาจเผด็จการที่มี 2 มาตรฐาน
ขณะที่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ที่ตนเองเดินทางมาครั้งนี้เพราะเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาของ เสธ.แดง เป็นนายทหารรุ่นพี่ เมื่อน้องเดือดร้อนก็ต้องมา ซึ่งตนเองมีส่วนสำคัญที่ทำให้ เสธ.แดง ถูกสั่งพักราชการ