"สุเทพ"กำชับเข้มงวดดูแลบ้านบุคคลสำคัญ, นายกฯ ไม่ย้ายไปเซฟเฮ้าส์

ข่าวการเมือง Tuesday February 2, 2010 09:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยบ้านบุคคลสำคัญ หลังจากเกิดเหตุมีผู้ขว้างปาสิ่งของเข้าไปในบ้านพักของนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ แม้ว่าจะเป็นสถานการณ์ที่คาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าจะเกิดความวุ่นวายขึ้นก่อนที่ศาลจะตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ก็ต้องมีการกำชับให้เพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น

"พอเกิดเหตุอย่างนี้ทำให้ผมตระหนักว่าต้องดูแลบ้านบุคคลสำคัญให้รัดกุมมากขึ้น"นายสุเทพ กล่าว

สำหรับเหตุการณ์เมื่อวานนี้เป็นความพยายามที่จะดีสเครดิตให้รู้สึกว่ารัฐบาลไม่สามารถที่จะดูแลได้ แม้กระทั่งเป็นบ้านของนายกรัฐมนตรี ซึ่งยอมรับว่าพื้นที่รอบบ้านพักของนายกรัฐมนตรีเป็นจุดที่มีความอ่อนไหวต่อการรักษความปลอดภัย เพราะเป็นเส้นทางที่ผู้คนสัญจรผ่านไปมาตลอดทั้งวัน ไม่สามารถดำเนินการเข้มงวดมากได้เพราะเกรงว่าชาวบ้านจะเดือดร้อน

นายสุเทพ กล่าวว่า เช้าวันนี้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลก็จะเข้ามารายงานผลการสอบสวนกรณีดังกล่าว เนื่องจากมีหลักฐานบางส่วนก็จะได้แจ้งให้มีการปรับวิการดูแลความปลอดภัยให้เข้มงวดมากขึ้น แต่นายกรัฐมนตรีก็คงไม่ต้องการย้ายไปพักอยู่ในเซฟเฮ้าส์

อย่างไรก็ตาม มองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะมีความเชื่อมโยงไปยังขบวนการที่เกี่ยวข้องกับคดียึดทรัพย์ ซึ่งไม่ได้กล่าวหาว่ากลุ่มเสื้อแดงเป็นคนทำ แต่กระบวนการต่าง ๆ มีความเชื่อมโยงกัน ดูจากคำปราศรัยและคำให้สัมภาษณ์ในสื่อต่าง ๆ แต่ไม่ได้ชี้ชัดลงไปว่าเป็นฝีมือกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)

ส่วนกรณีที่แกนนำ นปช.เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ดูไบ ก็เป็นเรื่องที่ประเมินอยู่แล้วว่าจะมีการเคลื่อนไหวในลักษณะนี้ เพราะผู้ที่สั่งการเด็ดขาดได้คือ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงอยากฝากเตือนว่าสถานการณ์จะรุนแรงหรือไม่ขึ้นกับ พ.ต.ท.ทักษิณจะตัดสินใจ แต่ควรจะคำนึงว่าเป็นคนไทย การทำอะไรที่ทำให้เกิดบาดแผลก็จะเกิดปัญหาขึ้นกับตัวเอง

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า จากการตรวจสอบภาพที่บันทึกโดยกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าบ้านพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าผู้ที่ก่อเหตุโยนสิ่งของเข้ามาในบ้านพักเป็นชายใส่หมวกกันน็อคปิดหน้า ขณะที่เมื่อคืนก็นอนหลับดี แต่ไม่ฝัน ขณะที่คนในบ้านก็ชินกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วและไม่รู้สึกตกใจ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ