บิล เบอร์ตัน รองโฆษกทำเนียบขาว เผยประธานาธิบดีบารัค โอบามา มีแผนที่จะพบกับองค์ดาไล ลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณของทิเบตในเดือนนี้ แต่ยังไม่ได้มีการระบุเวลาและสถานที่ที่แน่นอน
เบอร์ตันกล่าวว่า องค์ดาไล ลามะ เป็นผู้นำทางศาสนาและวัฒนธรรมที่ได้รับการยอมรับนับถือในระดับสากล และผู้นำสหรัฐก็จะพบท่านในสถานะดังกล่าว
การออกมาแถลงของทำเนียบขาวในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่จีนเพิ่งออกมาเตือนว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐที่ตึงเครียดอยู่แล้วในช่วงนี้จากกรณีที่สหรัฐทำข้อตกลงขายอาวุธให้กับไต้หวัน และกรณีความขัดแย้งเรื่องการเซ็นเซอร์บนเสิร์ชเอ็นจินชื่อดังอย่างกูเกิลนั้น อาจจะเลวร้ายยิ่งขึ้นไปอีก หากผู้นำสหรัฐเปิดโอกาสให้องค์ดาไล ลามะ เข้าพบ
โดยเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา จู เว่ยฉวิน เจ้าหน้าที่ระดับสูงฝ่ายงานแนวร่วมของพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าวในการแถลงข่าวว่า การพบกันระหว่างผู้นำสหรัฐและผู้นำทิเบตพลัดถิ่นเป็นการกระทำที่ "ไม่มีเหตุผลและไม่มีประโยชน์" พร้อมกับเตือนว่า ถ้าสหรัฐตัดสินใจดำเนินการดังกล่าว ก็เท่ากับว่าสหรัฐละเมิดกฎระเบียบสากล
ขณะที่นายเหอ หย่าเฟย รมช.กระทรวงต่างประเทศจีนได้ยื่นเอกสารประท้วงตามกระบวนการทางการทูตถึงนายจอน ฮันต์สแมน ทูตสหรัฐประจำกรุงปักกิ่ง หลังทราบว่ากระทรวงกลาโหมสหรัฐได้แจ้งกับทางสภาครองเกรสถึงแผนการขายอาวุธให้ไต้หวัน ซึ่งประกอบด้วยขีปนาวุธแพทริออต เฮลิคอปเตอร์ยูเอช-60 เอ็มแบล็กฮอว์ก และเรือล่าทำลายทุ่นระเบิดชั้นออสปรีย์ เพื่อช่วยต่อต้านแสนยานุภาพกองทัพจีนที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ทางการจีนยังกล่าวด้วยว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีน และยังเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อความมั่นคงในจีน รวมถึงความพยายามในกระบวนการรวมชาติอย่างสันติ อีกทั้งเป็นการบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐ ตลอดจนส่งผลกระทบในเชิงลบต่อการให้ความร่วมมือในประเด็นสำคัญๆของทั้งสองประเทศ
ทั้งนี้ บริษัทเอกชนของสหรัฐได้มีการเสนอขายเฮลิคอปเตอร์รุ่น ยูเอช-60 แบล็กฮอว์ก มูลค่า 3.1 พันล้านดอลลาร์และขีปนาวุธ มูลค่า 37 ล้านดอลลาร์ให้กับไต้หวัน