ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ระบุเมื่อพรรคฯ มีมติให้ตนเองทำหน้าที่ประธาน ส.ส.และหัวหน้าทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลก็ถือว่าเรื่องที่ตนเองออกมาแสดงความไม่พอใจคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเมื่อวานนี้จบลงในพรรคแล้ว และจะไม่ขอพูดถึงเรื่องดังกล่าวอีก
"ผมมันเป็นดาวฤกษ์มีแสงในตัวเอง แต่อาจไม่มาก ไม่เหมือนกับบางคนที่ทำตัวเป็นดาวเคราะห์ที่คอยต้องพึ่งแสงสว่างจากดาวอื่น เรื่องนี้จบแล้ว จะไม่มีการพูดกันอีก" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนเองได้เสนอให้พรรคฯ จัดระบบบริหารพื้นที่ในเขต กทม.ใหม่ เพราะไม่อยากให้มีใครคุมอำนาจเพียงคนเดียว เนื่องจาก กทม.มีพื้นที่กว้างใหญ่เกินกว่าที่คนคนเดียวจะดูแลได้ ส่วนพรรคฯ จะมีความเห็นเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องที่พรรคฯ จะพิจารณา
"ที่เสนอแบบนี้เพราะไม่ต้องการให้มีการแบ่งกลุ่มแบ่งก๊วนกันเกิดขึ้นในพรรค ถ้าใครอยากจะสมัครเป็น ส.ส.ก็ควรให้ที่ประชุมผู้บริหารพรรคเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไร ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับอำนาจของคนคนเดียว เช่น ถ้าผมเป็นผู้รับผิดชอบพื้นที่ กทม.ฝั่งธนบุรี การคัดเลือกผู้สมัครในส่วนนี้ ผมก็ต้องเสนอให้ที่ประชุมพิจารณา ไม่ใช่ใช้อำนาจตัดสินใจคนเดียว" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า วันนี้ในพรรคฯ ไม่ควรมาทะเลาะกันเอง ต้องจัดแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบเพื่อให้เกิดความเข้มแข็ง
"เราจะทำสงครามไม่ควรมารบกันเอง ต้องจัดทัพอย่าแตกแยก แบบนี้มันเสียของ แค่เรารบกับพรรคประชาธิปัตย์ก็จะตายอยู่แล้ว และทุกอย่างจบแล้วไม่ต้องคุยกันอีกแล้วเพราะเราได้ข้อสรุปแล้ว" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม ยืนยันว่า จะไม่ส่งลูกชายลงสมัครรับเลือกตั้งใน กทม.เด็ดขาด แต่หากเป็นต่างจังหวัดก็เป็นอีกเรื่อง เพราะต้องมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่นั้น 5 ปี ถึงจะมีคุณสมบัติเป็นผู้สมัครได้
"ทั้งหมดขึ้นอยู่กับพรรคฯ จะตัดสินใจ เพราะผมไม่ใช่คนที่ต้องการสร้างความแตกแยก แม้ว่าจะมีคนคนเดียวที่ไม่ต้องการให้ลง" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่มีความจำเป็นต้องไปคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และไม่จำเป็นต้องไปเคลียร์ข้อขัดแย้งกับคุณหญิงสุดารัตน์
"ใคร สุดารัตน์ไหน เป็นใครต้องไปต่อสาย ไปคุยไม่ได้เดี๋ยวติดคุก เพราะเขาเล่นการเมืองไม่ได้" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว