ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย(พท.) ระบุกรณีที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติอนุมัติให้ พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) โอนย้ายไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) ถือเป็นมติ ครม.สุดอัปยศ เพราะเป็นการกลั่นแกล้งข้าราชการประจำ ถือเป็นการลุแก่อำนาจ ไม่มีกฎเกณฑ์ และไม่สมควรที่จะเป็นรัฐบาลภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตย
"เพราะคนนี้เป็นหัวหน้าทำคดีเงินบริจาค 258 ล้านบาทใช่หรือไม่ ครม.ถึงได้มีการย้ายในช่วงนี้ ประชาธิปัตย์ถึงไม่พอใจและสงสัยว่าคนคนนี้ได้ให้ข้อมูลมาให้ผม แต่จริงๆ แล้วกลับเป็นผมเองที่เป็นคนเอาข้อมูลไปให้ตำรวจ โดยเฉพาะสำเนาเช็คธนาคารฮ่องกงเซี่ยงไฮ้" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า รู้มาว่ากระบวนการตรวจสอบของดีเอสไอในตอนนี้มีหลักฐานค่อนข้างชัดเจนและปราศจากข้อสงสัย โดยเตรียมที่จะเสนอให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ลงนามในการออกหมายเรียกให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ลงนามรับรองงบดุลในขณะนั้นมาชี้แจงต่อดีเอสไอ แต่นายธาริตไม่ยอมจึงต้องมีการย้าย พ.ต.อ.สุชาติ
"ขอประณามมติ ครม.ที่โยกย้ายครั้งนี้ เพราะถ้าผมมีวาสนาได้เป็นนายกรัฐมนตรีและถูกอภิปรายแบบนี้ ผมคงไม่มีหน้าอยู่ในตำแหน่งต่อไปได้ ดังนั้นการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้(4 ก.พ.)จะขอตั้งกระทู้ถามสดนายกฯ เรื่องมาตรการการบังคับใช้กฎหมายระเบียบที่เกี่ยวข้องในการบริหารราชการของนายกฯ" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
นอกจากนี้ การที่นายอภิชาติ สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ยังไม่ยอมพิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคประชาธิปัตย์ต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยเร็ว ทั้งๆ ที่มีผลการสอบสวนออกมานานมากแล้ว จึงเห็นว่านายอภิชาตควรทบทวนการทำหน้าที่เป็นประธาน กกต.ด้วยเช่นกัน