วิคเตอร์ ยานุโควิช ผู้นำพรรคฝ่ายค้านของยูเครนเตรียมประกาศชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี หลังได้รับคะแนนเสียงเหนือนายกรัฐมนตรีหญิงยูเรีย ทิโมเชนโก คู่แข่งคนสำคัญซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำการปฏิวัติสีส้มเมื่อปี 2547 ร่วมกับประธานาธิบดีวิคเตอร์ ยุชเชนโก
คณะกรรมการการเลือกตั้งเปิดเผยว่า หลังจากที่การนับคะแนนเลือกตั้งผ่านไปแล้วกว่า 70% ผลปรากฏว่า ยานุโควิชได้คะแนนเสียง 48.92% เหนือนายกรัฐมนตรีทิโมเชนโก ที่ได้รับคะแนนเสียง 45.42%
ขณะเดียวกัน ผลเอ็กซิทโพลล์จากหลายสำนักที่สอบถามผู้มีสิทธิ์ของเสียงเลือกตั้ง 16,332 คนระบุว่า ยานุโควิชอาจได้รับชัยชนะด้วยคะแนนเสียง 48.5% เหนือนายกรัฐมนตรีหญิงที่มีอยู่ 45.7%
อย่างไรก็ตาม ทิโมเชนโกกล่าวว่ายังเร็วเกินไปที่ผู้นำฝ่ายค้านจะออกมาประกาศถึงชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ พร้อมทั้งกล่าวหาว่า ยานุโควิชพยายามโกงการเลือกตั้ง ซึ่งหากเธอตรวจสอบพบว่ามีการโกงการเลือกตั้งจริง ก็พร้อมออกมาต่อสู้เพื่อทุกคะแนนเสียง ขณะที่ยานุโควิชเรียกร้องให้ฝ่ายตรงข้ามยอมรับความพ่ายแพ้
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หลังจากที่การนับคะแนนเสียงระบุออกมาว่า ยานุโควิชมีคะแนนเหนือนางทิโมเชนโก้ เขาได้ให้คำมั่นว่าจะเป็นผู้ปิดฉากปีแห่งความวุ่นวาย ตลอดจนให้คำมั่นว่าจะปรับลดภาษีเพื่อช่วยให้ประเทศหลุดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย และขอให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ยกเลิกการอายัดเงินกู้ 1.64 หมื่นล้านดอลลาร์ ตลอดจนพัฒนาความสัมพันธ์กับรัสเซียและสหภาพยุโรปให้ดีขึ้น
ทั้งนี้ จากผลการเลือกตั้งที่ออกมาจนถึงขณะนี้อาจช่วยปูทางให้ยานุโควิชกลับมาคว้าชัยชนะได้อย่างยิ่งใหญ่ หลังจากที่ถูกนายวิคเตอร์ ยุชเชนโกประธานาธิบดี และนางยูเรีย ทิโมเชนโก นายกรัฐมนตรียูเครนเป็นแกนนำขัดขวางไม่ให้เขาได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีในยุคปฏิวัติสีส้มเมื่อปี 2547