นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยรัฐบาลเตรียมจัดกำลังผสม ตำรวจ ทหาร และพลเรือน คอยดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่กรุงเทพฯ และ 38 จังหวัด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดงที่คาดว่าจะเกิดความรุนแรง ในช่วงก่อนและหลังวันที่ 26 ก.พ.ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยจะมีการตั้งด่านตรวจกว่า 200 จุดทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งคุมเข้มสถานที่สำคัญๆ
ทั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพราะคาดว่าจะมีคนมาชุมนุมมาก ส่วนต่างจังหวัดผู้ชุมนุมคงไม่มากเท่าไร จังหวัดละไม่กี่พันคน โดยจะตั้งด่าน 200 จุดรอบกรุงเทพฯ ใช้กำลังผสม 54 กองร้อย โดยกำลังผสมจะทยอยเข้าพื้นที่ในช่วงครึ่งแรกของเดือน ก.พ. หลังจากวันที่ 15 ก.พ.จะค่อยๆ เพิ่มความเข้มข้นขึ้นอีกระดับ เนื่องจากเหตุการณ์เมื่อเดือน เม.ย.52 พบว่าต้องใช้เวลาในการเคลื่อนย้ายกำลังพลค่อนข้างนานหลังสั่งการ ทำให้ผู้ชุมนุมบุกยึดบริเวณสี่แยกและสถานที่สำคัญได้
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การชุมนุมเป็นสิทธิสามารถทำได้ โดยรัฐบาลจะดูแลและอำนวยความสะดวกให้ แต่ต้องตรวจสอบว่าไม่มีการติดอาวุธเพื่อก่อความไม่สงบ หรือเตรียมสร้างวินาศกรรมตามสถานที่ต่างๆ เพราะอาจเกิดผลกระทบบานปลาย ที่สำคัญต้องระวังไม่ให้มือที่สามเข้ามาแทรกแซง ฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์
"ทุกมาตรการที่รัฐบาลใช้เป็นขั้นตอนปกติตามกฎหมาย โดยจะเชิญสื่อมวลชนเข้าสังเกตการณ์ทุกขั้นตอน ทั้งนี้จะมีการประเมินสถานการณ์เป็นระยะ โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.) และสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) หากมีความจำเป็นถึงประกาศใช้กฎหมายที่มีควมเข้มข้นมากขึ้น" นายปณิธาน กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้จะผ่านพ้นวันที่ 26 ก.พ.ไปแล้ว แต่นายกรัฐมนตรีให้นโยบายว่าคงต้องเฝ้าระวังต่อไปอีกระยะ เพราะจากการประเมินหลังวันที่ 26 ก.พ.ยังคงมีบางกลุ่มเคลื่อนไหวต่อไป โดยแยกตัวออกมาเพื่อให้เป็นอิสระจากคดีความต่างๆ ซึ่งรัฐบาลต้องจับตาดูว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอยู่ในกรอบกฎหมายหรือไม่ เพราะคิดว่าหลังวันพิพากษาฯ คงมีความพยายามก่อเหตุให้รุนแรงมากขึ้น ดังนั้นรัฐบาลจะต้องดำเนินการเข้มข้นขึ้นด้วย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นักวิชาการออกมาวิเคราะห์ว่าหากรัฐบาลไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบเรียบร้อยจะเป็นเงื่อนไขให้มีผู้มาชุมนุมมากขึ้น ทำให้ทุกอย่างลุกลามบานปลาย ดังนั้นต้องรอดูว่าวันที่ 26 ก.พ.สถานการณ์จะคลี่คลายไปทางใด