ประธานรัฐสภา เผยหลังเรียกประชุมคณะกรรมการประสานงาน(วิป) 3 ฝ่ายหารือเกี่ยวกับการนัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาญัตติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญปี 50 และกรอบการเจรจาระหว่างประเทศแล้วมีมติให้นัดประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 11 ก.พ.53 เวลา 10.00 น.
"วิป 3 ฝ่ายมีมตินัดประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ เวลา 10.00 น." นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา กล่าว
สำหรับตัวแทนวิป 3 ฝ่าย ประกอบด้วย นายวิทยา แก้วภารดัย ประธานวิปรัฐบาล, นายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ตัวแทนวิปฝ่ายค้าน และนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ในฐานะประธานวิปวุฒิสภา โดยใช้เวลาหารือประมาณ 1 ชั่วโมง
นายชัย กล่าวว่า วาระด่วนเรื่องแรกคือ พิจารณาญัตติการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ(คป.พร.) เรื่องด่วนที่สองคือ ญัตติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสองประเด็นของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล 102 คนเข้าชื่อยื่น ซึ่งบรรจุในวาระการประชุมแล้ว จากนั้นวาระถัดไปคือ กรอบการเจรจากับต่างประเทศตามมาตรา 190 จำนวน 4 ฉบับ
ส่วนที่มีข้อสังเกตุว่าการนัดประชุมดังกล่าวเป็นการเร่งรัดเพื่อพิจารณาญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ นายชัยปฏิเสธที่จะตอบคำถามและให้นายประเกียรติ ตอบแทนว่า เป็นการทำตามข้อบังคับการประชุมสภาข้อ 45 ที่กำหนดให้บรรจุวาระภายใน 7 วัน ซึ่งนายชัยเป็นห่วงว่าหากไม่ดำเนินการจะเป็นการทำผิดข้อบังคับ ซึ่งการนัดประชุมวันที่ 11 ก.พ.53 ก็ครบกำหนด 7 วันพอดี ไม่ได้เป็นการเร่งรัดหรือเล่นเกมระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล และฝ่ายค้านยืนยันว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องเร่งด่วน ยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
นายชัย กล่าวว่า สำหรับร่างของ คป.พร.เมื่อตรวจสอบรายชื่อประชาชนที่ร่วมกันเข้าชื่อกว่า 7 หมื่นชื่อเสร็จก็บรรจุวาระเป็นเรื่องด่วนแรกทุกครั้ง แต่เมื่อมีการประชุม ที่ประชุมก็มีมติเลื่อนนำวาระอื่นขึ้นมาพิจารณาก่อนทุกครั้ง ซึ่งในวันที่ 11 ก.พ.นี้อาจมีสมาชิกเสนอเลื่อนการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาลก่อนก็เป็นได้
ด้านนายวิทยา กล่าวว่า สาเหตุที่วิปรัฐบาลยอมให้บรรจุเรื่องนี้ไว้ในวาระ เพราะเห็นว่าทำไปตามระเบียบข้อบังคับการประชุม ทำให้กรอบเวลาเรียกประชุมไม่สามารถเลี่ยงไปวันอื่นได้ แต่วิปรัฐบาลจากทุกพรรคยังไม่ได้หารือกันว่าจะเลื่อนญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาลขึ้นมาพิจารณาเป็นอันดับแรกสุดหรือไม่ แต่จะนัดหารืออีกครั้งก่อนวันที่ 11 ก.พ.
แหล่งข่าวจากรัฐสภา กล่าวว่า นายชัยเพิ่งจะเชิญวิปทั้ง 3 ฝ่ายเมื่อช่วงเช้าให้มาหารือเรื่องการนัดประชุมร่วมกันของรัฐสภาในช่วงบ่าย ทำให้วิปทุกฝ่ายแปลกใจ และไม่ได้ตั้งตัว ซึ่งในที่ประชุมนายชัยพยายามโน้มน้าวให้ที่ประชุมให้เห็นด้วยกับการนัดประชุมในวันที่ 11 ก.พ.เพื่อพิจารณาญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ซึ่งวิปรัฐบาลและวิปวุฒิพยายามทักท้วงว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องด่วน อีกทั้งสภาผู้แทนราษฎรยังมีวาระพิจารณาที่สำคัญอีกมา ขณะที่วุฒิสภายังมีวาระพิจารณาถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองค้างอยู่ถึง 2 เรื่อง แต่นายชัย หยิบปฏิทินขึ้นมานับวันให้ดู และยกข้อบังคับการประชุมสภามาอ้างว่า จะต้องบรรจุวาระหลังรับญัตติภายใน 7 วัน ทำให้ที่ประชุมไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้