นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ปฏิเสธไม่มีการต่อรองเรื่องผลประโยชน์ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับ 5 พรรคร่วมรัฐบาล กรณีที่คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) มีมติให้เลื่อนการพิจารณาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมทั้งของ คปพร.และ 5 พรรคร่วมรัฐบาลออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะเรื่องดังกล่าวขึ้นอยู่กับที่ประชุมว่าจะมีมติออกมาอย่างไร
ขณะเดียวกัน นายชัย ยืนยันว่า การบรรจุเรื่องดังกล่าวในวาระประชุมเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับ และตนเองทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง และไม่รู้สึกหนักใจที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะยื่นถอดถอนตนเองออกจากตำแหน่ง
ด้านนายวิทยา แก้วภราดัย ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า สาเหตุที่วิปรัฐบาลมีมติให้เลื่อนการพิจารณาฯ ออกไปก่อน เพราะเกรงว่าจะเป็นตัวเร่งให้เกิดปฏิกิริยาทางการเมืองที่ร้อนแรงยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีมาตรา 190 ที่จะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค.นี้ และขอยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ได้มีการต่อรองผลประโยชน์กับพรรคร่วมรัฐบาล และไม่ได้เป็นการยื้อเวลาเพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากวุฒิสภาพิจารณาเรื่องถอดถอนนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่งเสร็จในเดือน มี.ค.แล้วจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม
ขณะที่นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การบรรจุวาระประชุมของนายชัยมีความซ้ำซ้อนและไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะดำเนินการอย่างเร่งรีบ ทำให้ฝ่ายค้านมองว่าพรรคประชาธิปัตย์กำลังต่อรองผลประโยชน์กับ 5 พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งพรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะพิจารณาร่างของ คปพร.หากมีการประสานงานและมีมุมมองที่ดี แม้จะมีมติในเรื่องนี้ไปแล้วก็ตาม เพราะเราไม่ปิดกั้น
ส่วนนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่การต่อรองผลประโยชน์ เพราะเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นของฝ่ายนิติบัญญัติ ส่วนโครงการต่างๆ เป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร พรรคภูมิใจไทยยึดจุดยืนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 2 ประเด็นเหมือนเดิม ส่วนจะพิจารณาได้เมื่อไรนั้นขึ้นอยู่กับที่ประชุมรัฐสภา