นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายวันนี้เตรียมนัดประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงที่กองทัพบก เพื่อประเมินสถานการณ์ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาทั้งการลอบยิง M79 ไปตกที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพาณิชยการพระนคร, การเก็บกู้ระเบิดซีโฟร์ได้ที่หน้าศาลฏีกา และเหตุที่มีรถยนต์เบียดแทรกขบวนรถของนายกรัฐมนตรี โดยยอมรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดอยู่นอกเหนือจากที่ฝ่ายความมั่นคงเคยประเมินสถานการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
"บ่ายวันนี้ ผมจะนัดประชุมฝ่ายความมั่นคง จะได้หารือประเมินสถานการณ์ ที่จริงก็ได้เตรียมการไว้ว่าจะทำอะไรบ้าง อย่างไร แต่กรณีที่เกิดขึ้น 2 วันนี้ เกินกว่าที่เราคาดการณ์พอสมควร" นายสุเทพ ระบุ
รองนายกรัฐมนตรี ยังไม่ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะมาจากบุคคลกลุ่มเดียวกันกับที่ยิง M79 เข้าไปที่กองบัญชาการกองทัพบกเมื่อเดือนที่แล้วหรือไม่ หรือจะมีการเชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวก่อนการตัดสินคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือจะเป็นเหตุมือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์หรือไม่ โดยขณะนี้ยังไม่ขอพูดอะไรทั้งสิ้น แต่จะรอฟังการประเมินเหตุการณ์จากหน่วยงานด้านความมั่นคงก่อน
อย่างไรก็ดี ยืนยันว่าสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ยอมรับว่าจำเป็นจะต้องเพิ่มมาตรการตรวจตราเฝ้าระวังมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ราชการที่สำคัญ ตลอดจนบ้านพักของบุคคลสำคัญ
นายสุเทพ กล่าวว่า จากการสอบถามผู้บัญชาการตำรวจนครบาลยังยืนยันว่า กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลรักษาความปลอดภัยยังมีเพียงพอในการปฏิบัติหน้าที่ แต่หากมีความจำเป็นก็เตรียมประสานให้ทหารเข้ามาเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานได้
ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองใหม่(ก.ม.ม.) ออกมาเรียกร้องให้พิจารณาตัวเองหลังจากที่ไม่สามารถดูแลสถานการณ์ได้นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า พร้อมจะรับฟังข้อคิดเห็นไปพิจารณาและปรับปรุงการทำงานให้มีความแข็งขันมากขึ้น