นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี แนะปรับปรุงกฎหมายดูแลม็อบให้เข้มงวด และรู้สึกกังวลกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง จะส่งผลกระทบให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศหยุดชะงักลง โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวและการลงทุน
"ขณะที่กฏหมายของไทยยังอ่อนแอและไม่สมบูรณ์ ดังนั้นในอนาคตควรจะมีการปรับปรุงการบังคับใช้กฏหมายเหล่านี้" นายไตรรงค์ กล่าว
นายไตรรงค์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการอย่างเข้มงวดหากผู้ชุมนุมทำผิดกฏหมาย เหมือนในต่างประเทศที่มีการบังคับใช้กฏหมายอย่างเข้มงวด เช่น ห้ามชุมนุมในเวลากลางคืนและบนท้องถนน อย่างที่อินเดีย เขาก็ให้เดินขบวนแค่ตอนกลางวันตอนกลางคืนก็เลิก เราก็ควรจะปรับปรุงกฎหมายตรงนี้
"ขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย อย่าให้เกิดความรุนแรง ไม่เช่นนั้นจะส่งผลกระทบต่อด้านเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะด้านการลงทุน และการท่องเที่ยว มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ที่รัฐบาลวางไว้อาจไม่เป็นไปตามเป้าหมาย" นายไตรรงค์ กล่าว
นายไตรรงค์ กล่าวว่า ได้ชี้แจงกับทูลต่างชาติหลายประเทศ เช่น สหรัฐ เยอรมนี และญี่ปุ่น ซึ่งต่างสะท้อนเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่อยากให้เกิดความรุนแรงขึ้นจากสถานการณ์ชุมนุมในทางการเมือง
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยเหมือนในช่วงเดือน เม.ย.52 และเหตุการณ์ล้มการประชุมอาเซียนซัมมิทที่พัทยา
"ขณะนี้นักลงทุนตกใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ตนก็มั่นใจว่า รัฐบาลจะรักษาสถานการณ์ไว้ได้ ถ้ามีการรักษากฎหมาย แม้จะมีการมองว่าเหตุการณ์จะรุนแรงต่อเนื่องจากวันที่ 26 ก.พ. เชื่อว่าจะต่อเนื่องเพราะเป็นเรื่องที่ต่อเนื่องมาจากอดีตคือว่าไม่ยุติ ถ้าลูกหลานตายไปก็จะต่อเนื่อง มีปัญหาต่อไม่ยุติ มีแต่จะเบาลงหรือแรงขึ้น"