นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มั่นใจว่าพฤติกรรมที่ใช้ความรุนแรงด้วยอาวุธสงครามเพื่อคุกคามการทำงานของสถาบันตุลาการจะไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการยุติธรรมใด ๆ ทั้งสิ้น และสนับสนุนให้รัฐบาลดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อดูแลความปลอดภัยของบุคคล และสถานที่ที่เป็นเป้าหมายก่อนการตัดสินพิจารณาคดีการยึดทรัพย์ในวันที่ 26 กุมภาพันธุ์ นี้
พร้อมกันนี้ ทางพรรคขอประณามความพยายามก่อวินาศกรรมในวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา เพราะไม่ว่าจะเกิดขึ้นโดยกลุ่มใดถือว่าเป็นการยกระดับการก่อความวุ่นวายขึ้นสู่การเตรียมก่อการร้ายเต็มรูปแบบ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความหวาดกลัวให้แก่ประชาชน สอดรับกับที่ก่อนหน้านี้ได้มีการกล่าวว่าหากรัฐบาลไม่ยอมการเจรจาเกิดความรุนแรงตามมา
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่าพรรคขอยืนยันว่าภาระกิจที่สำคัญที่สุดของรัฐบาลในขณะนี้คือการรักษาความสงบเรียบร้อยบ้านเมือง และการรักษากฎหมายของบ้านเมืองอย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกันต้องดำเนินการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนไม่ให้ตื่นตระหนก
พรรคมองว่าการดำเนินการต่อเครือข่ายที่สนับสนุนทรัพยากร โดยการปิดกั้นเส้นทางสนับสนุนทางการเงินที่รัฐบาลดำเนินการอยู่นั้น หากทำสำเร็จจะป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงยกระดับจากการก่อวินาศกรรมต่อสถานที่เชิงสัญญาลักษณ์ที่ประเมินว่ามี 8 แห่งนั้น ยกระดับขึ้นสู่สถานที่ชุมนุมและแหล่งชุมชน และเป้าหมายที่เป็นตัวบุคคล จะต้องป้องกันสิ่งเหล่านี้ไม่ใช้เกิดขึ้น และการดำเนินการต่อเส้นทางลำเลียงการเงินนั้น ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันการลุกลามของเหตุการณ์ดังกล่าวบบรรลุผล
พร้อมกันนั้น ขอเรียกร้องให้ประชาชน ที่พักอาศัยใกล้เคียงกับสถานที่ต่างๆ องค์กรในพื้นที่ เช่น อาสาสมัคร ช่วยเสริมระบบการเฝ้าระวังของรัฐบาล โดยการร่วมกันสอดส่องสิ่งผิดปกติในพื้นที่และขอให้แจ้งให้ทางการทราบหากประสบพบเห็นเหตุการณ์ผิดปกติ พรรคมั่นใจแนวทางการดำเนินการของรัฐบาลในการดำเนินการก่อนหน้านี้ พรรคมั่นใจว่ารัฐบาลจะสามารถดูแลความสงบของบ้านเมืองไม่ให้เกิดความรุนแรงเหมือนครั้งเดือน เม.ย.52
นพ.บุรณัชย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ขัตติยะ สวัสดิผล ได้ให้สัมภาษณ์ในลักษณะปฏิเสธความรับผิดชอบว่า การให้ข่าวดังกล่าวเท่ากับเป็นการยอมการมีส่วนรู้เห็นการยิงระเบิด M79 ในระหว่างการชุมนุมในปี 51-52 โดยวันที่ 12 พ.ย.51 พล.ต.ขัตติยะ ได้เตือนว่ากลุ่มพันธมิตรจะโดนระเบิด และหลังจากวันนั้น 9 วัน คือวันที่ 21 พ.ย.51 มีการยิงระเบิด M79 ใส่ผู้ชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล มีผู้เสียชีวิต 1ราย บาดเจ็บ 24 ราย และในวันที่ 22 พ.ย.51 ก็เสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 8 ราย
หลังจากนั้น พล.ต.ขัตติยะ ก็ออกมาระบุถึงการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร เมื่อวันที่ 15 พ.ย.52 ว่าจะมีการยิงระเบิดก่อนการชุมนุม เมื่อถึงเวลาดังกล่าวนั้นก็มีการยิงระเบิด M79 มีผู้บาดเจ็บอีก 10 กว่าคน
นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า พฤติกรรมดังกล่าวทางพรรคมองว่าครบองค์ประกอบในการดำเนินการตามกฎหมาย ประกอบกับการให้สัมภาษณ์ที่ยืนยันว่ากองกำลังที่ได้มีการฝึกตามข้อมูลที่พรรคได้นำมาเปิดเผยนั้น มีขีดความสามารถที่จะก่อเหตุวินาศกรรมได้ และพล.ต.ขัตติยะ ก็ระบุถึงความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นต่อองค์ผู้พิพากษา ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีเหตุระเบิดใส่ นายจรัล ภัดดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูง และนายวิชา มหาคุณ คณะกรรมการ ป.ป.ช มาก่อนในช่วงปีที่ผ่าน
“สิ่งต่างๆเหล่านี้ถือว่าเป็นการเตรียมการส่งสัญญาณที่จะก่อความรุนแรงประกอบกับการออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนปช.ว่าการดำเนินการในส่วนของเสธแดง กับ พล.อ.พัลลภ ที่กล่าวว่าจะมีการใช้กำลัง และเคลื่อนไปสู่การดำเนินการใต้ดินนั้น ส่วนตัวไม่มีความรับผิดชอบ พร้อมกันนี้ เสธแดงก็บอกด้วยว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากการ์ด หรือนักรบ ที่มีการฝึกออกมาก็ไม่สามารถควบคุมได้ ถือว่าเป็นการสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนและรัฐบาลต้องสร้างความมั่นใจในการดำเนินการโดยด่วน "โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว