นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาแถลงข่าวปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิดข้างศาลฎีกาและกรณีที่มีผู้ยิงระเบิดเข้าไปในบริเวณสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพาณิชย์พระนคร
"วันนี้ขอแถลงข่าวปฏิเสธทุกกรณีที่จะเชื่อมโยงมายังอดีตนายกฯ พ.ต.ท.ทักษิณ เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์และระหว่างนี้จนถึงวันตัดสินคดีน่าจะเกิดขึ้นอีก" นายนพดล กล่าวถายหลังได้คุยเรื่องดังกล่าวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางไปมอบทุนการศึกษาและทำธุรกิจหวยที่ประเทศยูกันดา
ที่ปรึกษากฎหมายฯ กล่าวว่า รัฐบาลควรไปตรวจสอบและหาคนผิดมาลงโทษ นำพยานหลักฐานมาแสดงให้ชัดเจนเพราะน่าจะมีการบันทึกภาพโทรทัศน์วงจรปิดเอาไว้ ภายหลังเกิดเหตุการณ์นายอภิสิทธิ์ออกมาระบุในทำนองคนที่ลงมือทำจะไม่ได้สิ่งที่ต้องการ เสมือนจะบอกว่าเป็นฝีมือ พ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง
"อยากให้คิดในมุมกลับว่ายามหน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้จะไปทำให้ศาลเกิดความรู้สึกเป็นลบทำไม หากเชื่อว่าคนอยู่ไกลมีศักยภาพสั่งการไปวางระเบิด แต่ในทางตรงกันข้ามคนอยู่ใกล้น่าจะไปหาคนลอบวางระเบิดมาลงโทษให้ได้" นายนพดล กล่าว
ที่ปรึกษากฎหมายฯ กล่าวว่า คดียึดทรัพย์ที่ศาลฎีกาฯ นัดตัดสินในวันที่ 26 ก.พ.นี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะคู่ความคงไม่ไปดำเนินการอะไรอย่างนั้น เพราะไม่มีประโยชน์และไม่เป็นผลดีกับตนเอง และอยากเรียกร้องให้ยุติการสร้างสถานการณ์เสียที รัฐบาลควรเร่งหาความจริงดีกว่ามากล่าวหาคนอื่น
"เรื่องนี้คล้ายกับกรณีที่มีคนขว้างอุจจาระเข้าบ้านพักนายกฯ ที่นายเทพไทออกมาบอกว่าอดีตนายกฯเป็นผู้ว่าจ้าง 3 ล้านบาท สุดท้ายเมื่อจับคนร้ายได้ก็ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวกันเลย ดังนั้นไม่อยากให้ใครก็ตามออกมาด่วนสรุปอยากให้ ผลออกมาชัดเจนเสียก่อน รัฐบาลควรระดมสรรพกำลังในการจับคนร้าย รวมทั้งเพิ่มกล้องวงจรปิดและเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในจุดที่มีความสุ่มเสี่ยงจะเกิดเหตุการณ์ดีกว่า" นายนพดล กล่าว
สำหรับการตัดสินคดียึดทรัพย์ฯ นั้นคงต้องขอความเป็นธรรมจากศาลและสื่อมวลชน เพราะขณะนี้มีบางรายการพยายามกดดันชี้นำศาล ซึ่งทำให้รู้สึกไม่สบายใจ โดย พ.ต.ท.ทักษิณ จะรอฟังคำตัดสินอยู่ที่ดูไบ ส่วนอดีตภริยาและบุตรน่าจะอยู่ในประเทศไทย ซึ่งเบื้องต้นอดีตนายกฯ และครอบครัวได้เตรียมการไว้หมดแล้ว
"คงลงรายละเอียดไม่ได้ เพราะจะดูเหมือนเป็นการคาดการณ์ผลแห่งคดี แต่ขอย้ำว่าแนวทางของท่านเป็นแนวทางสันติ และไม่ใช่แนวทางการข่มขู่ศาล ถ้าคำตัดสินออกมาและสามารถอธิบายนักกฎหมาย สังคมได้อย่างชัดเจน บ้านเมืองจะไปได้ คงไม่มีปัญหาอะไร" นายนพดล กล่าว
ที่ปรึกษากฎหมายฯ กล่าวว่า ตามหลักการช่องทางในประเทศหากมีพยานหลักฐานใหม่สามารถยื่นต่อองค์คณะผู้พิพากษาได้อยู่แล้ว
"เงิน 7.6 หมื่นล้านบาทเป็นเรื่องใหญ่ คงไม่มีคู่ความคนใดจะไม่คิดเตรียมแผนการรองรับไว้ แต่สิ่งที่พูดได้คือเป็นช่องทางสันติไม่ใช้ความรุนแรง คณะที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ เชื่อว่าก่อนวันตัดสินจะมีซีโฟร์อีกกี่ปอนด์ เอ็ม 79 อีกกี่ลูกที่จะทำลายและดิสเครดิต พ.ต.ท.ทักษิณ" นายนพดล กล่าว
ที่ปรึกษากฎหมายฯ กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก มักออกมาให้สัมภาษณ์ว่าการเคลื่อนไหวของตนเองและการดำเนินการบางอย่างได้รับความเห็นชอบจากอดีตนายกรัฐมนตรีว่า ในฐานะที่ปรึกษากฎหมายฯ หากมีอะไรจะพูด ตนเองจะเป็นคนพูดแทน ไม่อยากเห็นการแอบอ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไปสั่งการอะไรเกี่ยวกับความรุนแรงหรือเกี่ยวข้องกับกระบวนการใต้ดิน ซึ่งอาจสร้างความสับสนให้ประชาชนและจะสร้างความเสียหายต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ
"อยากให้ประชาชนและทุกฝ่ายเข้าใจตรงกันว่า พล.ต.ขัตติยะ ไม่ใช่คนที่จะพูดหรือดำเนินการใดๆ แทนอดีตนายกฯในเรื่องดังกล่าวนี้ นปช.ก็มีความวิตกกังวลเช่นเดียวกัน ทราบมาว่าอาจจะมีการแถลงชี้แจงออกมาเช่นเดียวกัน ขอฝาก พล.ต.ขัตติยะ หากจะเคลื่อนไหวใดๆ อย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อน" นายนพดล กล่าว