รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ มีวาระสำคัญ คือ การพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เป็นประธาน
คณะกรรมการชุดดังกล่าว ประกอบด้วย รมว.กลาโหม รมต.ประจำนักนายกรัฐมนตรี รมว.ศึกษาธิการ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจ ปลัดและอธิบดีที่เกี่ยวข้อง โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวมีหน้าที่ติดตามสถานการณ์ โดยสามารถเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสอบถามความคืบหน้าได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังมีอำนาจพิจารณาใช้กฎหมายพิเศษหากประเมินแล้วว่ามีความจำเป็น
รวมถึงการตั้งคณะทำงานฝ่ายกฎหมายเพื่อติดตามพฤติกรรมต่างๆ ซึ่งหากมีการกระทำผิดกฎหมาย หรือชุมนุมผิดกฎหมายจะดำเนินคดีทันที รวมทั้งหามาตรการควบคุมสถานการณ์เหตุความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น
พร้อมกันนั้น กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายงานผลตรวจสอบเครื่องจีที 200 ของคณะกรรมการตรวจสอบประสิทธิภาพเครื่องตรวจวัตถุระเบิดจีที 200 ตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ไปดำเนินการต่อที่ประชุมครม.
และกระทรวงคมนาคม รายงานต่อที่ประชุมครม.เพื่อรายงานผลการประชุมคจร.เรื่องการก่อสร้างรถไฟฟ้า ซึ่งเส้นทางแรกที่จะดำเนินการคาดว่าจะเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-ปากเกร็ด-มีนบุรี ระยะทาง 36 กม.
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อจัดงบประมาณในการดูแลสุขภาพกลุ่มคนที่รอพิสูจน์สัญชาติ ซึ่งมีจำนวน 450,000 ราย เพื่อให้ได้รับสิทธิบัตรทอง เป็นการช่วยเหลือโรงพยาบาลที่กำลังประสบปัญหา คาดว่าเบื้องต้นจะเป็นการของบประมาณในช่วงครึ่งปี 2553 นี้ โดยเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน-ตุลาคม จำนวน 550 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมบอร์ดสปสช. ในวันที่ 25 ก.พ. ซึ่งเป็นวาระพิเศษเพื่อขอมติ