นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ระบุว่า การที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะรวบรวมรายชื่อประชาชนเพื่อถอดถอนองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่จะพิจารณาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น สามารถดำเนินการได้หากผู้พิพากษามีความประพฤติมิชอบ แต่การถอดถอนต้องมีเหตุผลตามกฎหมายกำหนดไว้ หากไม่มีเหตุผลก็คงถอดถอนไม่ได้
ทั้งนี้มองว่าความพยายามถอดถอนองค์คณะผู้พิพากษาดังกล่าวคงไม่กระทบกับการพิจารณาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท เนื่องจากกระบวนการถอดถอนต้องใช้เวลานาน โดยเริ่มจากการแสดงตนที่จะรวบรวมรายชื่อ เมื่อได้รายชื่อแล้วจึงส่งมาให้พิจารณา จากนั้นต้องส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ไปพิจารณาว่ามีมูลหรือไม่
เมื่อสรุปผลแล้วจึงส่งกลับมาให้ประธานวุฒิสภา เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาต่อไป ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดต้องใช้เวลาเป็นปี ส่วนผลการพิจารณาไม่ว่าจะออกมาอย่างไรนั้นก็จะไม่มีผลย้อนหลังและไม่มีผลกับคดีที่ได้พิจารณาไปแล้ว
ประธานวุฒิสภา ยังเชื่อว่า การออกมาเคลื่อนไหวเพื่อกดดันศาลฎีกาไม่น่าจะนำไปสู่เหตุการณ์ที่รุนแรงบานปลาย ซึ่งการเข้าชื่อถอดถอนดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามกฎหมายที่สามารถทำได้ ดีกว่าการไปชุมนุมเคลื่อนไหว
ส่วนกรณีที่ ส.ว.บางส่วนกังวลว่าวุฒิสภาจะตกเป็นเป้าโจมตีของกลุ่มเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลนั้น ตนได้นำเรื่องนี้ไปหารือกับนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาแล้ว ซึ่งได้กำชับให้รักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด และประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงกำชับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้ตรวจสอบผู้ต้องสงสัยอย่างเคร่งครัด และเพิ่มการติดตั้งกล้องวงจรปิดในจุดที่จำเป็นให้เร็วที่สุด
ด้านนายพิฑูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ได้สั่งการให้รองเลขาธิการที่ดูแลด้านความปลอดภัยนำเรื่องนี้ไปหารือกับตำรวจเพื่อวางมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยตำรวจและรัฐสภาจะทำแผนขอกำลังตำรวจมาเสริมในจุดสำคัญบริเวณภายนอกรัฐสภา
"สภาผู้แทนราษฎรมีการทำงานอย่างใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ วันนี้ทางตำรวจจะทำแผนรักษาความปลอดภัยส่งกลับมาให้พิจารณา ต้องขอดูรายละเอียดก่อนจึงจะบอกได้ว่าแผนจะเริ่มดำเนินการเมื่อใด" นายพิฑูร ระบุ