ครม.ขีดเส้นหน่วยงานเร่งลงทุนตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งก่อน 31 มี.ค.53

ข่าวการเมือง Tuesday February 16, 2010 16:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบมาตรการเร่งรัดหน่วยงานที่ได้รับอนุมัติเงินโครงการลงทุนภายในแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 รอบที่ 1 วงเงิน 199,960.60 ล้านบาท โดยขีดเส้นตายให้เสนอขอจัดสรรภายใน 23 ก.พ.53 ส่วนโครงการที่ได้รับจัดสรรเงินแล้วต้องเซ็นสัญญาให้เสร็จภายใน 31 มี.ค.53 หากโครงการไม่สามารถดำเนินการได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดให้ยุติโครงการ แล้วนำเงินไปให้โครงการอื่นที่มีความพร้อมที่จะดำเนินการมากกว่าแต่ไม่ได้รับอนุมัติ

"เพื่อให้มีการเร่งรัดการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินของหน่วยงานภาครัฐที่ได้รับเงินโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพิ่มการจ้างงาน และทำให้เกิดการกระจายของเม็ดเงินออกสู่ประชาชนในช่วงเศรษฐกิจซบเซาสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล" นายวัชระ กล่าว

ทั้งนี้ให้หน่วยงานที่ได้รับอนุมัติเงินรีบดำเนินงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดประสิทธิภาพอย่างแท้จริง และสอดคล้องกับระยะเวลาตาม พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 ที่กำหนดให้กระทรวงการคลังกู้เงินได้ไม่เกินวันที่ 31 ธ.ค.53

อนึ่ง สำหรับการเบิกจ่ายเงินตามโครงการดังกล่าวนับถึงวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา มีหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรแล้ว 15,852 โครงการ เป็นเงิน 158,784.59 ล้านบาท เซ็นสัญญาแล้ว 6,238 โครงการ เป็นเงิน 110,044.66 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 34,767.15 ล้านบาท หรือคิดเป็น 21.90 % ของจำนวนเงินจัดสรร ซึ่งมีหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรแล้วแต่ยังไม่เซ็นสัญญา 9,614 โครงการ เป็นเงิน 48,604.79 ล้านบาท

ขณะเดียวกันมีหน่วยงานที่ยังไม่ขอจัดสรร ประกอบด้วย หน่วยงานในสังกัดกระทรวงกลาโหม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุข

ส่วนการจัดสรรวงเงินลงทุนในรอบที่ 2 อีกจำนวน 149,999.84 ล้านบาทนั้น มีหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรแล้ว 20,351.05 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 11,524.28 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ