องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ให้ความมั่นใจกับชาวอัฟกันว่ากองกำลังของนาโต้จะให้การสนับสนุนด้านความมั่นคงในอัฟกานิสถานต่อไป แม้ว่ายังไม่ทราบอนาคตที่แน่นอนของกองกำลังทหารพันธมิตร หลังจากการล่มสลายของรัฐบาลเนเธอร์แลนด์
โดยรัฐบาลผสมสามพรรคของเนเธอร์แลนด์ล่มสลายเป็นครั้งที่ 5 นับตั้งแต่ปี 2545 หลังจากที่สองพรรคแกนนำของไม่สามารถตกลงกันได้เรื่องการขยายระยะเวลาให้ทหารชาวดัตช์เกือบ 2,000 นายประจำการในอัฟกานิสถานต่อไปอีก
โฆษกนาโต้กล่าวว่า นาโต้จะให้การสนับสนุนชาวอัฟกันต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม แม้ก่อนหน้านี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอูรุซ้นฟูกันที่ทหารดัตช์ประจำการอยู่ ได้กล่าวยอมรับว่า ความพยายามในการบูรณะฟื้นฟูและสร้างสันติภาพอาจประสบภาวะชะงักงันถ้าเนเธอร์แลนด์ถอนกองกำลังออกไป เนื่องจากทหารดัตช์มีบทบาทสำคัญในการสร้างถนน ฝึกอบรมตำรวจอัฟกัน และให้ความปลอดภัยแก่พลเรือนชาวอัฟกานิสถาน ดังนั้นหากถอนทหารออกไป ก็จะทำให้โครงการเหล่านี้ไม่เสร็จ และทำให้เกิดภาวะสุญญากาศ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีแจน ปีเตอร์ บัลเกเนนเด ของเนเธอร์แลนด์ กล่าวในแถลงการณ์หลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรีที่กรุงเฮกเป็นเวลาถึง 16 ชั่วโมง เมื่อวานนี้ โดยนายกฯประกาศเรื่องการล่มสลายของคณะรัฐมนตรี และเผยว่าเขาจะเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีเบียทริซเพื่อกราบบังคมทูลเรื่องการลาออกจากรัฐบาลของสมาชิกพรรคแรงงาน
เหตุการณ์ประท้วงด้วยการลาออกครั้งนี้เกิดขึ้น หลังจากที่รองนายกรัฐมนตรีวูเตอร์ บอส หัวหน้าพรรคแรงงาน ปฏิเสธขยายเวลาปฏิบัติการของกองกำลังเนเธอร์แลนด์ในจังหวัดอุรุซกัน ทางภาคใต้ของประเทศอัฟกานิสถาน แต่นายกรัฐมนตรีจากพรรคคริสเตียนเดโมแครต ซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาลผสมสนับสนุนการขยายระยะเวลาดังกล่าวจากกำหนดการในเดือนส.ค.ออกไปอีก
นักวิเคราะห์เชื่อว่า ความขัดแย้งดังกล่าวมีสาเหตุมาจากการที่สงครามในอัฟกานิสถานไม่เป็นที่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆในหมู่ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งชาวดัตช์ หลังจากที่ในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา สหรัฐและนาโต้ได้ปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ในอัฟกานิสถานและให้คำมั่นจะส่งทหารไปเพิ่ม แต่ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เนเธอร์แลนด์ ซึ่งส่งทหารไปประจำการมากที่สุดประเทศหนึ่งในบรรดาพันธมิตรนาโต้ตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะตัดสินใจเช่นไร
เนเธอร์แลนด์ส่งทหารเข้าประจำการในอัฟกานิสถานมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2549 โดยปัจจุบันมีทหารประจำการราว 2,000 นาย และมีทหารดัตช์เสียชีวิต 21 นายจนถึงขณะนี้