นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุขอให้ทุกคนเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมของไทย เนื่องจากองค์คณะผู้พิพากษาของศาลฎีกาแผนคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองล้วนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์การทำงานในวิชาชีพทางกฎหมายมายาวนาน ซึ่งศาลฎีกาฯ นัดฟังคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 26 ก.พ.นี้ เวลา 13.00 น.
"อยากให้ทุกคนรอการตัดสินของศาล โดยจะมีการจัดให้มีการถ่ายทอดเสียงให้ได้ยินไปพร้อมๆ กันทั่วประเทศ และเชื่อว่าศาลจะมีคำอธิบายทุกแง่ทุกมุมว่าที่พิพากษาเช่นนั้นด้วยเหตุผลอะไร และคนไทยก็ต้องทำใจยอมรับคำพิพากษา ยอมรับระบบ เพราะนี่คือระบอบประชาธิปไตยที่มีการแบ่งแยกอำนาจกันชัดเจน ถ้าเรายึดหลักนี้ได้บ้านเมืองเราก็ไม่วุ่นวาย" นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนใช้สติในการรับฟังข่าวสาร และเชื่อมั่นในระบบกระบวนการยุติธรรมของไทยที่มีมาตรฐานดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลกมานานนับร้อยปี
"อยากให้พวกเราตั้งสติกันให้ดี ตามปกติการพิจารณาคดีในศาล มีทั้งศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา องค์คณะก็จะมีเพียง 3 คนเท่านั้น แต่สำหรับคดีนักการเมือง รัฐธรรมนูญกำหนดเอาไว้ว่าจะต้องมีการพิจารณาคดีที่เป็นการเฉพาะ เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการตัดสินจึงได้ใช้ศาลฎีกาเลย มีศาลเดียว แต่ก็มีระบบรองรับว่าจะต้องเกิดความเป็นธรรม คนที่จะมาเป็นผู้พิพากษาคดีของนักการเมืองจะใช้ผู้พิพากษาศาลฎีกาทั้งนั้น เป็นศาลสูง และใช้ตั้ง 9 คนเป็นองค์คณะ ซึ่งองค์คณะทั้ง 9 คน กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้เขาก็ต้องทำงานกันมาค่อนชีวิต มีประสบการณ์ในการใช้วิชาชีพทางกฎหมายอย่างโชกโชน แม่นยำ เพราะฉะนั้นไว้ใจได้ เชื่อถือได้" นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องที่น่าสลดใจอย่างยิ่งที่มีการปล่อยข่าวเรื่องการติดสินบนองค์คณะผู้พิพากษา ซึ่งเป็นการทำลายภาพพจน์ของกระบวนการยุติธรรม
"อยากให้ประชาชนเชื่อมั่นในระบบศาลของเรา อย่าไปหวั่นไหวกับข่าวที่บอกว่าศาลถูกซื้อ ศาลถูกจ้าง อย่าไปฟัง ผมเชื่อว่าวิธีนั้นทำไม่ได้ในประเทศนี้ แม้ว่าจะมีคนพยายามจะทำก็ตาม อย่างที่มีการนำเงินใส่ถุงขนมไปติดสินบนศาล ก็ติดคุกกันมาแล้ว เพราะฉะนั้นไม่สำเร็จหรอก ผู้พิพากษาเหล่านี้ถ้าเขาไม่แน่จริง เขาไม่ไปถึงศาลสูงสุดหรอก" นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวว่า ตนเองคงไม่กล้าไปวิจารณ์โฆษกพรรคการเมืองใหม่ที่ออกมาพูดเรื่องดังกล่าว เพราะจะกลายเป็นการสร้างความขัดแย้งขึ้นอีก และเชื่อว่าหลังจากนี้ไปจะมีการปล่อยข่าวออกมาอีกเป็นจำนวนมาก
"ขนาดผมไม่วิจารณ์ เขายังเสนอปลดผมเป็นประจำอยู่แล้ว ดังนั้นขอไม่วิจารณ์ดีกว่า" นายสุเทพ กล่าว
ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าหากถูกยึดทรัพย์ทั้งหมดจะนำเรื่องไปฟ้องศาลโลกนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่เคยได้ยินว่าการนำเรื่องไปฟ้องศาลโลกนั้นจะทำได้ และไม่รู้ว่ามีจุดประสงค์เพื่อต้องการอะไร
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงการขู่วางระเบิดที่กระทรวงศึกษาธิการ และเผาสำนักงานหนังสือพิมพ์แนวหน้า ว่า คนที่ทำมีเจตนาชัดเจนที่ต้องการให้เกิดเหตุวุ่นวาย สับสนใจบ้านเมืองจะได้เอามาเป็นข้ออ้างในการต่อสู้ แต่ขอให้ประชาชนช่วยกันทำหน้าที่เจ้าของประเทศคอยเป็นหูเป็นตา เห็นอะไรที่แปลกหรือสงสัยก็ให้แจ้งเจ้าหน้าที่
"เราเป็นเจ้าของประเทศที่แท้จริง อย่ายอมให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมาทำให้บ้านเมืองเราเสียหายวุ่นวาย สำหรับภาครัฐขณะนี้ได้เตรียมการป้องกันอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการเฝ้าระวังดูแลความปลอดภัยสถานที่สำคัญและบุคคลสำคัญ และตั้งด่านตรวจอย่างเข้มงวดในขณะนี้" นายสุเทพ กล่าว
และการที่นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานกลุ่ม นปช.ออกมาประกาศสร้างรัฐไทยใหม่นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศคงไม่เอาด้วย ประเทศไทยที่ดำรงอยู่ทุกวันนี้ดีอยู่แล้ว คนที่ไม่ดีก็คือคนที่ก่อกวน สร้างความวุ่นวายต่างหาก