พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านระบบวีดีโอลิงค์ในงานเสวนา“ทิศทางประเทศไทย 2553"จัดขึ้นโดยกลุ่มกรุงเทพ 50 ยืนยันไม่ได้ทำผิดไม่สมควรถูกยึดทรัพย์ พร้อมเดินหน้าเรียกร้องหาความยุติธรรมถึงศาลโลก มั่นใจมีช่องทางยื่นหลังศึกษากรณีของดาโต๊ะของมาเลเซียฟ้องรัฐบาลมหาเธร์
"ผมกับครอบครัวไม่ได้ทำอะไรผิด ในกรอบกฎหมาย ทรัพย์สินของครอบครัวผมมีมาก่อนเป็นนายกฯ ถ้าย้อนไปตอนผมเป็นรมว.ต่างประเทศปี 1994 นิตยสาร Fox ก็ลงบัญชีเงินผมหมด ครอบครัวผมก็ประกาศบัญชีก่อนเป็นนายกฯ ปัญหามาจากหุ้นตัวเดียวที่ราคาขึ้นลง ดังนั้น ในเมื่อเรามั่นใจไม่ได้ทำอะไรผิด คิดว่า ผู้พิพากษาเป็นผู้มีชื่อเสียงมานานท่านก็รักษาคุณงามความดีเชื่อว่า ผู้ใหญ่มีความยุติธรรม
แต่ถ้าผิดเพี้ยนผมก็เตรียมทางออกของผมแล้ว ผมหารือกับผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศแล้ว ผมคิดว่า ผมต้องเสาะแสวงหาความยุติธรรม ถ้าไม่ได้รับความยุติธรรม การต่อสู้จะยังไม่เลิกลาแน่นอน ผมเป็นคนพูดง่าย แต่ถ้ารังแกและก็กลั่นแกล้งเป็นสิ่งที่รับไม่ได้แน่"พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
พร้อมชี้แจงกรณีมีผู้วิจารณ์ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะยื่นฟ้องศาลโลกว่า ผู้ที่วิจารณ์ไม่ได้เปิดตำราก็เข้าใจว่าศาลโลกเป็นเรื่องที่ฟ้องรัฐต่อรัฐ แต่ของตนเองเป็น International Court of Justice มีช่องทางขึ้นไปได้ และเรื่องนี้มีกรณีแล้ว กรณีดาโต๊ะรายหนึ่งที่มาเลเซียฟ้องรัฐบาลมาเลเซียตอนมหาเธร์เป็นนายกฯ ที่สุดรัฐบาลต้องจ่ายชดเชยถึง 2.5 บิลเลียนดอลล่าร์
นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวตอบกรณีมองจากนี้เงื่อนไขที่ทำให้เกิดความรุนแรงจะมีหรือไม่ว่า ขอย้อนอดีตตอนพรรคไทยรักไทย คนมีความรู้สึกว่านโยบายน่าสนใจจึงชอบนโยบาย ตอนหลังเลือกเพราะรัก แต่พอโดนปฏิวัติและถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวน ประชาชนก็เริ่มสงสาร ตอนหลังคนแปลี่ยนจากสงสารเป็นเจ็บใจแทน จึงเพิ่มคนเสื้อแดงมากขึ้น
"ผมมั่นใจคนเสื้อแดงรักสันติ เว้นแต่รัฐบาลส่งคนปลอม ใส่เสื้อสีน้ำเงิน ส่งคนไปตี เอารถแก๊สไปจอดถ้าทำแบบนี้ ก็ไม่รู้เหมือนกัน จริงๆ คนเสื้อแดงรักสันติ ไม่มีอาวุธ ถ้ารัฐบาลเตรียมเอ็ม 16 ก็เป็นอีกเรื่อง แต่ถ้ารัฐบาลรักสันติด้วยก็ไม่มีอะไร" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวต่อว่า วันนี้การเมืองไทยเล่นกันแรง โดยไม่สนใจว่าเศรษฐกิจจะพังหรือไม่ และยังข้ามเขตเลยไปถึงกระบวนการยุติธรรม แต่ก่อนการเมืองเล่นแต่การเมืองกับการทหาร ทั้งนี้ ต่างชาติมองว่าถ้าประเทศไทยยังไม่นิ่ง การลงทุนก็จะหายไป
อย่างไรก็ตาม การที่เศรษฐกิจไตรมาส 4 ปี 52 จีดีพีโต 5.8% ปกติแล้วหากจีดีพีขึ้นตัวเลขการลงทุนต้องขึ้น แต่นี่กลับติดลบ ดังนั้น ไตรมาส 1 ปี 53 เศรษฐกิจอาจจะโตได้ แต่ไตรมาส 2 จะเริ่มแผ่ว ขณะที่ครึ่งปีหลังเรามีปัญหาแน่เพราะเศรษฐกิจโลกเปราะบางยังมีปัญหา
"วันนี้บ้านเมืองเรา คนกังวลมาก ต่างชาติ กังวลเรื่องมาบตาพุด เขาบอกว่า นายกฯ แคร์เอ็นจีโอมากไป"พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า วันนี้ยุโรปน่ากลัวโดยเฉพาะประเทศกรีซ ที่มีปัญหาจากการแต่งตัวเลข เกิดปัญหาสภาพคล่อง ลามไปไอร์แลนด์ ทำให้ยูโรโซนน่าเป็นห่วง ส่วนญี่ปุ่นก็เกิดภาวะเงินฝืด อเมริกาแม้จะดูดีกว่าแต่ก็มีปัญหามาก แต่ผู้นำเขาก็มีปัญหาเหมือนกันแต่วันนี้อเมริกาก็ยังแผ่ว ดังนั้น ครึ่งปีหลังของปีนี้ยังน่าเป็นห่วง
"ถ้าคนไทยถามตัวเองช่วง ต.ค.-ธ.ค.ปีที่ผ่านมา หากยังแฮปปี้กับเศรษฐกิจก็แสดงว่าโอเค แต่ถ้าไม่แฮปปี้ก็แสดงว่าแย่ลง เพราะจุดที่ดีที่สุดคือไตรมาสสี่เมื่อปีที่แล้ว"พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว