แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง เผยเตรียมนัดชุมนุมใหญ่เพื่อขับไล่รัฐบาลในเดือน มี.ค.นี้ โดยครั้งนี้จะเป็นการชุมนุมยืดเยื้อไม่น้อยกว่า 7 วัน คาดว่าจะมีคนมาร่วมชุมนุมนับล้านคน โดยวันพรุ่งนี้(24 ก.พ.) จะประชุมเพื่อกำหนดวันเวลาที่ชัดเจนอีกครั้ง
"วันพรุ่งนี้ แกนนำฯ จะประชุมเพื่อกำหนดวันชุมนุมใหญ่ แต่จะไม่ใช่วันที่ 28 กุมภาฯ ตามที่โฆษกรัฐบาลออกมาสู่รู้ แต่จะเป็นช่วงเดือนมีนาคม รอให้ทอดเวลาคำพิพากษาไปสักระยะเพื่อสร้างความเคียดแค้น แต่จะไม่ให้ใกล้เดือนเมษายน เนื่องจากคนเสื้อแดงมีบทเรียน และช่วงนั้นเป็นเทศกาลสงกรานต์คนอยากจะกลับบ้าน พวกผมต้องปิดฉากก่อนสงกรานต์ ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเกิดขึ้นหลังการชุมนุมของเสื้อแดงแล้ว" นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่ม นปช.กล่าว
สำหรับวันที่ 26 ก.พ.นี้ ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยืนยันอีกครั้งว่ากลุ่ม นปช.จะไม่ไปชุมนุมที่ศาลฎีกาฯ อย่างเด็ดขาด ส่วนที่กลุ่มแดงสยามประกาศชุมนุมช่วง 25-27 ก.พ.ที่สนามหลวงนั้น ไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะกลุ่มแดงสยามแยกตัวจากกลุ่ม นปช.ไปนานแล้ว
"การชุมนุมใหญ่จะอยู่อย่างต่ำ 7 วัน มีคนเข้าร่วม 1 ล้านคน โดยจะใช้รถปิคอัพไม่ต่ำกว่า 1 แสนคัน ครั้งนี้จะใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก จะมีริ้วธงแดงขับเคลื่อน ภาคอีสานจะไหลรวมกันที่โคราช ภาคเหนือที่นครสวรรค์ ภาคใต้ที่ถนนเพชรเกษม พื้นที่ชุมนุมจะใช้พื้นที่เต็มสนามหลวง ราชดำเนิน ยาวไปถึงลานพระบรมรูปทรงม้า" นายจตุพร กล่าว
แกนนำกลุ่ม นปช.กล่าวว่า ครั้งนี้ต้องเตรียมการเรื่องห้องน้ำและห่องส้วมสำหรับ 1 ล้านคน ตลอดจนการจัดเตรียมอาหาร ตอนนี้กำลังวางเรื่องระบบเสียงจากสนามหลวงถึงลานพระรูป ต้องให้ได้ยินเสียงพร้อมกัน ส่วนสถานที่ถ่ายทอดคือ ที่พีเพิลแชนเนิล อิมพิเรียล แต่ได้คิดสำรองเผื่อไว้ หากถูกรัฐบาลสั่งปิด เราก็ต้องหาที่ซ่อนอีก 4 แห่ง
แกนนำกลุ่ม นปช.ยังเรียกร้องให้ประธานศาลฎีกาฯ ตรวจสอบกรณีที่นายสำราญ รอดเพชร โฆษกพรรคการเมืองใหม่ ออกมาปล่อยข่าวเรื่องการติดสินบนองค์คณะผู้พิพากษาฯ คนละ 1 พันล้าน ซึ่งติดสินบนให้ผู้พิพากษาไปแล้ว 4 ใน 9 คน ควรดำเนินการตรวจสอบให้เสร็จก่อนถึงวันตัดสินคดี เพราะหากไม่ดำเนินการใดๆ จะไม่เป็นผลดีต่อศาลฯ
"เรื่องนี้ถือว่าร้ายแรงที่สุด ประธานศาลฎีกาจะเฉยเรื่องนี้ไม่ได้เพราะเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ถ้าศาลไม่ยึดทรัพย์ก็จะบอกเลยว่าเป็นเพราะถูกซื้อหัวละพันล้าน ขณะเดียวกันถ้าศาลยึดทรัพย์ก็จะประโคมว่าศาลซื้อไม่ได้ เขาได้ทั้งหัวทั้งก้อย แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นฝ่ายเสีย"นายจตุพร กล่าว