นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า การให้สถานีโทรทัศน์ช่อง 11 จัดการรายพิเศษในช่วงเที่ยงด้วยการเชิญนักวิชาการและนักกฎหมายมาให้ความเข้าใจที่ถูกต้องกับประชาชนในคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาในช่วงบ่ายวันนี้นั้น ไม่ได้เป็นการรู้ถึงคำตัดสินของศาลล่วงหน้าว่าจะออกมาอย่างไร แต่การจัดรายการดังกล่าวขึ้นเพื่อต้องการทำความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชน ซึ่งการจัดรายการดังกล่าวไม่เพียงจะมีขึ้นก่อนการถ่ายทอดสดคำพิพากษาของศาลเท่านั้น แต่จะมีขึ้นหลังจากที่ศาลพิพากษาคดีเสร็จสิ้นแล้วด้วย
รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังแสดงความเป็นห่วงต่อการทำงานของสื่อมวลชน โดยขอให้ระมัดระวังการนำเสนอการวิดีโอลิงค์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะมีเข้ามาในช่วงที่ศาลฎีกากำลังอ่านคำพิพากษา เนื่องจากเกรงว่าการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนในช่วงดังกล่าวอาจจะเข้าข่ายการละเมิดอำนาจศาลได้
พร้อมกันนี้ ยังกังวลต่อความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้นหลังศาลพิพากษาคดียึดทรัพย์ โดยตั้งข้อสังเกตถึงการที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดง ออกมาระบุก่อนหน้านี้ว่าหากเกิดความวุ่นวายขึ้นในวันที่ศาลตัดสินคดียึดทรัพย์ จะถือว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับการกระทำของกลุ่มนปช.
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้แกนนำ นปช.ยืนยันว่าไม่ได้นัดให้กลุ่มคนเสื้อแดงมาชุมนุมกันในวันที่ 26 ก.พ.เพื่อรอฟังคำตัดสินของศาล แต่หากประชาชนจะมารวมตัวกันเองก็ถือเป็นสิทธิ ขณะที่กลุ่มแดงสยามบางส่วนได้นัดชุมนุมกันที่สนามหลวงบ่ายนี้
นายสาทิตย์ กล่าวว่า จากนี้ไปรัฐบาลจะเร่งทำความเข้าใจที่ถูกต้องกับประชาชนจนกว่าจะถึงวันที่กลุ่ม นปช.นัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 14 มี.ค.นี้