รายการทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตามประกาศของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หลังจากอัยการสูงสุดยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดินตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 โดยกล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติและมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ
ทรัพย์สินที่อัยการสูงสุดระบุไว้ในคำร้องนั้นเป็นทรัพย์สินที่ได้จากการขายหุ้น บมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น(SHIN) จำนวน 1,419,490,150 หุ้นให้กับกลุ่มเทมาเส็กประเทศสิงคโปร์ โดยมีบริษัท ซีดาร์โฮลดิ้ง จำกัด และ บริษัท แอสแพน โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลต่างด้าวเป็นผู้ซื้อ รวมค่าซื้อหุ้น เงินปันผล และดอกเบี้ย เป็นเงิน 76,621,603,061.05 บาท ซึ่งอยู่ในชื่อบุคคลของครอบครัวชินวัตร บริษัทต่างๆ มูลนิธิฯ รวม 20 ราย ประกอบด้วย
1.ทรัพย์สินที่มีชื่อ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร ลูกสาวเป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคารและเงินลงทุน ดังต่อไปนี้
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารี เป็นเงิน 3,000 ล้านบาท
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาราชวัตร เป็นเงิน 1,000 ล้านบาท
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาชิดลม เป็นเงิน 3,000 ล้านบาท
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสำนักรัชโยธิน 3 บัญชี เป็นเงิน 311 ล้านบาท, 13,000 ล้านบาท และ 3,000 ล้านบาท
- บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ เป็นเงิน 218 ล้านบาท
2.ทรัพย์สินที่มีชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวเป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคารและเงินลงทุน ดังต่อไปนี้
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาพหลโยธิน 2 บัญชี เป็นเงิน 100 ล้านบาท และ 33.5 ล้านบาท
- กองทุนเปิดแอสเซทพลัสนิปปอนโกรท เป็นเงิน 202 ล้านบาท
3.ทรัพย์สินที่มีชื่อนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายอดีตภริยาเป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคารและเงินลงทุน ดังต่อไปนี้
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสำนักรัชโยธิน จำนวน 3 บัญชี เป็นเงิน 340 ล้านบาท, 1,000 ล้านบาท และ 3,000 ล้านบาท
- บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมไทยพาณิชย์ เป็นเงิน 700 ล้านบาท
- หุ้นธนาคารกสิกรไทย จำนวน 28.9 ล้านหุ้น, หุ้นบริษัททุนธนชาต จำนวน 57 ล้านหุ้น และหุ้น บมจ.เอส ซี แอสเสท คอร์ปอร์เรชั่น จำนวน 15.9 ล้านหุ้น เป็นเงิน 2,682.9 ล้านบาท
- เงินที่โอนจากบัญชีเงินฝากธนาคารทหารไทย สาขาย่อยเพนนินซูล่า เป็นเงิน 502 ล้านบาท
- ธนาคารยูโอบี สาขาย่อยถนนพหลโยธิน 8 จำนวน 2 บัญชี เป็นเงิน 280 ล้านบาท และ 200 ล้านบาท
- กองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 0208 B จำนวน 2 บัญชีๆ ละ 100 ล้านบาท
- ธนาคารธนชาต สาขาย่อยเอ็มบีเค ทาวเวอร์ เป็นเงิน 15.39 ล้านบาท
4.ทรัพย์สินที่มีชื่อคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยาเป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคารและเงินลงทุน ดังต่อไปนี้
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสำนักรัชโยธินจำนวน 5 บัญชี เป็นเงิน 188 ล้านบาท, 100.36 ล้านบาท, 5 ล้านบาท, 5 ล้านบาท และ 200,000 บาท
- บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมไทยพาณิชย์ จำนวน 5 บัญชี เป็นเงิน 1,000 ล้านบาท
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาชิดลม เป็นเงิน 1,100 ล้านบาท
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาซอยอารีสัมพันธ์ จำนวน 2 บัญชี เป็นเงิน 1,782 บาท และ 515,229 บาท
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาศรีนครพิงค์ เป็นเงิน 42,125 บาท
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสยามสแควร์ เป็นเงิน 5,040 บาท
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาลาดพร้าว ซอย 59 เป็นเงิน 4,652 บาท
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนสุขสวัสดิ์ เป็นเงิน 10 ล้านบาท
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาราชวัตร เป็นเงิน 10.28 ล้านบาท
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาสะพานควาย เป็นเงิน 20 ล้านบาท
- ธนาคารกสิกรไทย สาขาสวนจตุจักร เป็นเงิน 33,213 บาท
- ธนาคารกสิกรไทย สาขาสำนักราษฎร์บูรณะ เป็นเงิน 3.49 ล้านบาท
- ธนาคารทหารไทย สาขาย่อยเพนนินซูล่า เป็นเงิน 10 ล้านบาท
- ธนาคารนครหลวงไทย สาขาสะพานควาย เป็นเงิน 1 ล้านบาท
- ธนาคารนครหลวงไทย สาขาราชวัตร เป็นเงิน 1,252 บาท
- ธนาคารยูโอบี สาขาย่อยออลซีซั่นเพลส เป็นเงิน 267,343 บาท
5.ทรัพย์สินที่มีชื่อนายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายเป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคารและเงินลงทุน ดังต่อไปนี้
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารี จำนวน 2 บัญชีๆ ละ 2,000 ล้านบาท
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาชิดลม เป็นเงิน 1,000 ล้านบาท
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยเซ็นจูรี่ เป็นเงิน 908.38 ล้านบาท
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสำนักรัชโยธิน จำนวน 3 บัญชี เป็นเงิน 6.14 ล้านบาท, 10,000 ล้านบาท และ 27.22 ล้านบาท
- บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ เป็นเงิน 1,218.15 ล้านบาท
- แคชเชียร์เช็คธนาคารกรุงไทย สำนักนานาเหนือ สั่งจ่าย บจ.ไวท์ แอนด์ เคส(ประเทศไทย) จำนวน ๑๒ ฉบับ เป็นเงิน 30 ล้านบาท
- ทรัพย์สินโฉนดที่ดินตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ราคา 27.22 ล้านบาท
6.ทรัพย์สินที่มีชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคาร ดังต่อไปนี้
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสำนักรัชโยธิน เป็นเงิน 464.07 ล้านบาท
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาราชวัตร จำนวน 2 บัญชี เป็นเงิน 84.4 ล้านบาท และ 2,784 บาท
- ธนาคารนครหลวงไทย สาขาแจ้งวัฒนะ เป็นเงิน 7,189 บาท
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เป็นเงิน 500 บาท
- ธนาคารออมสิน สาขาสำนักพหลโยธิน เป็นเงิน 15,631 บาท
- ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย สาขาคลองตัน เป็นเงิน 10,025 บาท
7.ทรัพย์สินที่มีชื่อที่ปรึกษากฎหมายธีรคุปต์เป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคาร ดังต่อไปนี้
- ธนาคารกรุงเทพ สาขารัชดา-ลาดพร้าว จำนวน 2 บัญชีๆ ละ 66,061 บาท
8.ทรัพย์สินที่มีชื่อบริษัท พี ที คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคาร ดังต่อไปนี้
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารี เป็นเงิน 1,000 ล้านบาท
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาสะพานควาย เป็นเงิน 1,300 ล้านบาท
9.ทรัพย์สินที่มีชื่อบริษัท เอส ซี ออฟฟิซ พลาซ่า จำกัด เป็นผู้ครอบครอง ได้แก่ เงินฝากธนาคาร ดังต่อไปนี้
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารี เป็นเงิน 1,000 ล้านบาท
- ธนาคารธนชาต สาขารัชดาภิเษก จำนวน 2 บัญชี เป็นเงิน 10,000 บาท และ 999.9 ล้านบาท
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขารัชดาภิเษก เป็นเงิน 100 ล้านบาท
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารี เป็นเงิน 5,000 ล้านบาท
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารี เป็นเงิน 1,000 ล้านบาท
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาสะพานควาย จำนวน 2 บัญชี เป็นเงิน 400 ล้านบาท และ 600 ล้านบาท
- ธนาคารธนชาต สาขาย่อยเอ็มบีเค ทาวเวอร์ เป็นเงิน 200 ล้านบาท
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารี เป็นเงิน 2,000 ล้านบาท
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารี จำนวน 2 บัญชี เป็นเงิน 430 ล้านบาท และ 187.5 ล้านบาท
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารี เป็นเงิน 200 ล้านบาท
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารี เป็นเงิน 1,000 บาท
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสำนักรัชโยธิน เป็นเงิน 1,000 ล้านบาท
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารี จำนวน 2 บัญชี เป็นเงิน 2,775 ล้านบาท และ 625 ล้านบาท
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสำนักรัชโยธิน เป็นเงิน 800 ล้านบาท และแคชเชียร์เช็คอีก 3 บัญชีๆ ละ 800 ล้านบาท
- ธนาคารธนชาต สาขาย่อยเอ็มบีเค ทาวเวอร์ เป็นเงิน 200 ล้านบาท
- ธนาคารอาคารสงเคราะห์ จำนวน 5 บัญชี เป็นเงิน 60 ล้านบาท, 50 ล้านบาท, 40 ล้านบาท, 30 ล้านบาท และ 20 ล้านบาท
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาถนนรัชดาภิเษก เป็นเงิน 100 ล้านบาท
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารี เป็นเงิน 130 ล้านบาท
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารี เป็นเงิน 40 ล้านบาท
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาถนนรัชดาภิเษก เป็นเงิน 13.5 ล้านบาท
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขามีนบุรี เป็นเงิน 4.98 ล้านบาท
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาราชวัตร เป็นเงิน 15.48 ล้านบาท
- ธนาคารกสิกรไทย สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ เป็นเงิน 25.5 ล้านบาท
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาพาหุรัด เป็นเงิน 70,850 บาท