นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุมวุฒิสภานัดพิเศษเพื่อดำเนินกระบวนการถอดถอนนายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศ ออกจากตำแหน่งตามมาตรา 273 ในกฎหมายรัฐธรรมนูญปี 50 ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดกรณีเห็นชอบให้ลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา สนับสนุนให้ประเทศกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก
โดยเป็นการพิจารณาประเด็นซักถามตามญัตติของส.ว. 7 ญัตติ รวม 45 คำถาม แบ่งเป็นซักถามป.ป.ช.ผู้กล่าวหา 11 คำถาม ซักถามนายนพดล ผู้ถูกกล่าวหา 30 คำถาม และซักถามคู่กรณี 4 คำถาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำถามส่วนใหญ่ที่ถามต่อป.ป.ช.ในฐานะผู้กล่าวหานั้น เป็นการถามถึงเหตุผลที่มีมติชี้มูล ซึ่งนายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการป.ป.ช.ยืนยันว่า ไม่ได้มีอคติกับผู้ที่ถูกกล่าวหา แต่กรรมการป.ป.ช.พิจารณาไปตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ไม่เคยวินิจฉัยนอกสำนวน และการชี้มูลก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความชอบหรือำไม่ชอบผู้ถูกกล่าวหาแต่อยู่ที่ความถูกต้อง
ส่วนประเด็นซักถามนายนพดล ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหานั้น ส่วนใหญ่เป็นคำถามเกี่ยวกับการลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ซึ่งนายนพดล ชี้แจงว่าก่อนการลงนามดังกล่าวได้มีการสอบถามความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ซึ่งได้ยืนยันว่าการลงนามในแถลงการณ์ร่วมจะไม่ทำให้ไทยเสียสิทธิเขตแดน และการลงนามก็เพื่อปกป้องพื้นที่ทับซ้อนทำให้ยังไม่ถูกขึ้นทะเบียนร่วมกับตัวปราสาทเขาพระวิหาร
พร้อมระบุว่า แม้ไม่มีแถลงการณ์ร่วมดังกล่าว กัมพูชาก็ขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอยู่แล้ว ถ้าตนไม่ดำเนินการใดๆ หากมีการผนวกพื้นที่ทับซ้อนไปด้วยตนก็ต้องรับผิดชอบ ดังนั้นจึงมีการประชุมกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อให้กัมพูชาตัดพื้นที่ทับซ้อน และการลงนามนั้นก็ไม่ใช่การทำหนังสือสัญญา จึงไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 แต่เมื่อศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัย ตนก็แสดงความรับผิดชอบทางการเมือง แม้ตนจะไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ก็แสดงสปิริตด้วยการลาออก เพราะไม่ได้ดำเนินการตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ที่ระบุไว้ แต่ไม่ได้จงใจทำขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 190
"ผมยืนยันว่า ทุกอย่างที่ทำไปเพื่อปกป้องพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร ไม่ได้ทำเพื่อให้บุคคลใดได้สัมปทานด้านเศรษฐกิจ ไม่ว่าน้ำมันหรือก๊าซ ผมทำโดยชอบ เพื่อป้องกันไม่ให้ชาติเสียหาย การดำเนินการทุกอย่างไม่ได้ทำตามอย่างอำเภอใจ"นายนพดล กล่าว
อย่างไรก็ดี หลังจากที่ประชุมซักถามคู่กรณีเสร็จสิ้นใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง นายประสพสุข แจ้งว่าทั้งผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหา ขอยื่นคำแถลงปิดสำนวนคดีเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งจะต้องส่งมาภายในวันที่ 9 มี.ค.53 และได้นัดประชุมวุฒิสภาเพื่อลงมติถอดถอนในวันที่ 12 มี.ค.53 เวลา 10.00 น.