นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊คอีกครั้งในช่วงเย็นวันนี้ว่า การแสดงความเห็นเกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ผ่านบทความก่อนหน้านี้ ไม่ได้มีเจตนาที่จะสนับสนุนการปฏิวัติ แต่เป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อนของผู้อื่นและมีผู้เจตนาพยายามบิดเบือนความหมาย พร้อมทั้งกล่าวกับผู้สื่อข่าวเพิ่มเติม โดยยืนยันว่าตนเองเป็นนักการเมืองของประชาชน ลงสมัครรับเลือกตั้ง ไม่ได้สนับสนุนการปฏิวัติ
"ผมเป็นคนของประชาชนที่ประชาชนเลือกมา และพร้อมทำงานโดยไม่เกรงกลัวอิทธิพลใดๆ โดยเฉพาะอิทธิพลมืดแต่ยอมรับว่ามีความกังวลในฐานะหัวหน้าครอบครัว...ผมไม่โกรธ เพราะมั่นใจในสังคมไทย ทุกวันนี้ยังใช้ชีวิตปกติ " รมว.คลัง กล่าว
นายกรณ์ กล่าวว่า ความคิดที่ต้องการสื่อมากที่สุดในบทความก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ว่าเรื่องที่เห็นว่าควรยึดเงินเท่าใด แต่คือประโยคที่ว่า"ถ้าทุกคนทำตามหน้าที่ ความยุติธรรมก็จะปรากฏเสมอ โดยไม่ต้องมีคนมายัดเยียดให้กับเราด้วยการปฏิวัติหรืออื่นๆ เราทำได้เอง แต่เราทำไม่ได้ บทเรียนนี้ผมคิดว่าเป็นบทเรียนสำคัญจากคดีนี้"
และ"เพราะผมไม่แน่ใจว่า พวกเราชาวไทยได้เรียนรู้ในเชิงลึกจากเรื่องราวทั้งหมดนี้หรือไม่"
รมว.คลัง ระบุอีกตอนหนึ่งว่า ภูมิต้านทานการปฏิวัติที่ดีที่สุดสำหรับการรักษาไว้ซึ่งประชาธิปไตยที่แท้จริง คือการมีรากฐานของนิติรัฐหรือการที่สังคมให้ความเคารพต่อความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย ซึ่งคล้องจองกับที่นายกรัฐมนตรีกล่าวไว้ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า "หากว่าสังคมไม่เคารพกฎหมาย ก็ไม่มีจุดจบ” และตนเองอยากจะพูดต่อว่า“หากว่าสังคมไม่เคารพกฎหมาย ประเทศไทยคงปกครองด้วยกฎหมู่”