นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า จะหารือกับอาสาสมัครป้องกัยภัยฝ่ายพลเรือน(อพปร.)ในวันที่ 8 มี.ค.นี้ เพื่อขอให้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยดูแลสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) โดยร่วมทำงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และ เทศกิจ
นอกจากนี้จะมีการประชุมกับทางกทม.เรื่องของสถานที่เพื่อจัดสถานที่สำหรับการชุมนุมที่เหมาะสม
"การจัดเวที ถ้าอยู่ในจุดที่แกนนำประกาศเอาไว้ ถ้าไม่เหมาะสม กทม.ไม่อนุญาตก็จะไม่ให้ทำ ยกเว้นที่เคยมีการชุมนุม เช่น สนามหลวง หรือลานพระบรมรูปได้...ต้องดูเจตนา ถ้าตั้งใจมาเรียกร้อง ก็ต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน" นายสุเทพ กล่าว
พร้อมขอความร่วมมือให้ผู้ชุมนุมที่จะเดินทางมาใช้บริการรถสาธารณะ หากนำรถมา ก็ควรจอดไว้ในสถานที่ที่จัดไว้ให้ ห้ามฝ่าฝืนเด็ดขาด
ส่วนเรื่องการประกาศใช้กฎหมายพิเศษ นายสุเทพ กล่าวว่า ขอประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่องเป็นระยะๆ จนถึงที่สุดก่อนตัดสินใจ เพราะหากประกาศไปก่อนจะสร้างความตื่นตระหนก และถูกตำหนิ ซึ่งเท่าที่ดูสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน น่าจะยังใช้กฎหมายปกติได้
"ก็ต้องคิดไว้ แต่การตัดสินใจต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริง เพื่อให้ประชาชนเห็นดีเห็นงามด้วย ผมจะไปตัดสินใจตามจินตนาการไม่ได้"นายสุเทพ กล่าว
สำหรับการประเมินสถานการณ์การชุมนุมต้องใช้ความระมัดระวัง ไม่พูดอะไรออกไปที่ทำให้เกิดความขัดแย้งหรือเป็นการท้าทาย แต่เห็นว่าแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมจะต้องรับผิดชอบหากเกิดความรุนแรงเกิดขึ้น ไม่สามารถอ้างว่าควบคุมไม่ได้
นายสุเทพ กล่าวถึงการเดินทางไปต่างประเทศของนายกรัฐมนตรีในช่วงเวลาดังกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่คงบอกอะไรล่วงหน้าไม่ได้ ซึ่งตนเองจะดูแลความพร้อมทุกอย่าง ไม่ประมาท แต่ไม่อยากคาดการณ์อะไรไปล่วงหน้าในทางที่ร้าย และอีกสิ่งที่ต้องดำเนินการ คือ จะต้องดูแลไม่ให้เกิดปัญหาการปะทะกันของประชาชนที่มาชุมนุมกับประชาชนในพื้นที่เหมือนการชุมนุมช่วง เม.ย.52