นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันพรุ่งนี้(8 มี.ค.) จะประชุมร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อรับฟังการประเมินสถานการณ์การชุมนุมใหญ่ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)หรือกลุ่มเสื้อแดง ว่าจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องประกาศใช้กฎหมายพิเศษด้านความมั่นคง เพื่อเข้ามาช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมหรือไม่
"รอฟังวันจันทร์อีกครั้งว่าเขา(หน่วยงานด้านความมั่นคง)จะว่าอย่างไร สถานการณ์จะผันแปรไปอย่างไร" นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯ อภิสิทธิ์ เช้านี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากข้อมูลที่มีอยู่ในขณะนี้พบว่ามีบุคคลบางกลุ่มประกาศชัดเจนว่าการชุมนุมใหญ่ครั้งนี้จะมีความรุนแรง แต่รัฐบาลคงต้องไปพิจารณาให้รอบคอบว่าสิ่งที่บุคคลบางกลุ่มประกาศนั้น เป็นเพียงการพูดอย่างลอยๆ หรือมีวัตถุประสงค์จะดำเนินการตามที่ประกาศไว้ ซึ่งยอมรับว่าความรุนแรงมีโอกาสจะเกิดขึ้น แต่รัฐบาลจะพยายามดูแลสถานการณ์อย่างดีที่สุด พร้อมเชื่อว่าการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองจะไม่มีฝ่ายใดได้ประโยชน์อย่างแท้จริง
"ผมไม่คิดว่าการมีระเบิด การก่อเหตุรุนแรง การจลาจล การฆ่า การสังหารใคร จะเป็นประโยชน์กับประชาชน เป็นไปไม่ได้ ไม่เป็นประโยชน์กับใครทั้งสิ้น เพราะการที่บ้านเมืองถลำเข้าสู่ความรุนแรง มันจะไม่มีวันจบ...ไม่มีชัยชนะอะไรที่ได้มาด้วยความรุนแรงแล้วจะยั่งยืน" นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนการเดินทางไปราชการที่ประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ช่วงปลายสัปดาห์หน้าซึ่งตรงกับวันนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มเสื้อแดงนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตราบใดที่ประเมินแล้วว่าสถานการณ์การชุมนุมยังเป็นไปตามปกติ ก็จะไม่เลื่อนกำหนดการเดินทางดังกล่าว แต่หากท้ายสุดหน่วยงานด้านความมั่นคงประเมินแล้วว่ามีความจำเป็นต้องประกาศใช้กฎหมายพิเศษด้านความมั่นคง ก็อาจจะเลื่อนการเดินทางต่างประเทศออกไปก่อน
"หมายงานเกิดขึ้นมานานแล้ว ที่งานแน่นตอนมี.ค. เพราะเดิมกลัวว่าช่วงม.ค.-ก.พ.จะมีอภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงขอเลื่อนเขาเป็นมี.ค. ถ้าการชุมนุมยังเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ผมถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อใดก็ตามที่เราเห็นว่าจำเป็นต้องประกาศกฎหมายพิเศษ ตอนนั้นผมถึงจะทบทวน(การไปต่างประเทศ)" นายอภิสิทธิ์ ระบุ