นายกฯ ย้ำไม่เจรจา"ทักษิณ"จนกว่าจะยอมรับกระบวนการยุติธรรมของไทย

ข่าวการเมือง Sunday March 7, 2010 11:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ตราบใดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังไม่ยอมรับที่จะเข้าสู่กระบวนการทางยุติธรรมของไทย ก็จะไม่มีการเจรจาใดๆ ระหว่างกัน

"ปัญหาเวลานี้ คือ คนที่เขาอยากจะให้เจรจา เขามีเงื่อนไขเรื่องการไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม เพราะถ้าเขายอมรับกระบวนการยุติธรรม ถ้าอยากจะคุย ผมคุยด้วย แต่ถ้าเมื่อไรยังอยู่บนสมมติฐานที่ไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม และทำลายความน่าเชื่อถือของสถาบันหลักของประเทศ ผมคงด้วยคุยไม่ได้" นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯ อภิสิทธิ์

โดยระบุว่า ตั้งแต่เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้รับการติดต่อจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายรัฐมนตรี ว่าจะขอเจรจาด้วย พร้อมยืนยันว่า จะไม่ยอมให้เกิดเงื่อนไขที่ต้องมีความรุนแรงขึ้นในบ้านเมืองก่อนถึงจะยอมเจรจาด้วย

"หลักของผมตรงกันข้าม ถ้าเมื่อไรเราบอกว่ารุนแรงถึงจะเจรจา วันข้างหน้าเราจะมีแต่ความรุนแรง เพราะใครจะทำอะไรก็ได้ แล้วคิดว่าใช้ความรุนแรงแล้วก็ขู่ เพราะฉะนั้นถ้าอยากให้มีการเจรจา ต้องไม่มีความรุนแรง ต้องกลับมาเป็นคนไทยในสังคมไทยที่เรายอมรับกัน คือทำผิดต้องยอมรับผิด แล้วเขาจะให้อภัย แต่ถ้าทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิด แล้วขู่จะเอากำลังมาเพื่อที่จะบอกว่าตัวเองไม่ผิดแล้วให้คนมาคุยด้วย ไม่มี หลักสากลใช้ไม่ได้" นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า การชุมนุมที่มีเงื่อนไขจะให้รัฐบาลยุบสภานั้น ยืนยันว่าเป็นนายกรัฐมนตรีคนเดียวที่บอกว่ายินดีจะยุบสภา แต่การยุบสภาเพื่อบอกว่าให้เกิดความสมานฉันท์และยุบสภาให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้ ต้องมีเงื่อนไขชัดเจน 3 ข้อ 1.ภาวะเศรษฐกิจต้องฟื้นตัวก่อน ซึ่งขณะนี้ถือว่าเศรษฐกิจใช้ได้แล้ว 2.ยุบสภาแล้วต้องเกิดความสมานฉันท์ และ 3.การเคลื่อนไหวทางการเมืองต้องไม่รุนแรง ทุกพรรคสามารถลงพื้นที่ได้อย่างอิสระปราศจากการชุมนุมต่อต้าน

"ถ้าเราเป็นนักประชาธิปไตย คนที่คิดไม่เหมือนเราจะต้องมีพื้นที่(การแสดงความเห็นทางการเมือง) รัฐบาลขอเรียกร้องไปยังฝ่ายที่ชุมนุมว่า ถ้าคุณเป็นนักประชาธิปไตย คุณต้องยึดหลักการนี้เช่นเดียวกัน" นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่ขัดข้องถ้าผู้ที่จะเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มเสื้อแดงชุมนุมอย่างสงบ แต่มีคนส่วนน้อยบางกลุ่มต้องการเห็นความรุนแรงเกิดขึ้นในบ้านเมืองและมีวาระแอบแฝงเพื่อประโยชน์ของตัวเอง ดังนั้นขอเชิญชวนให้ประชาชนส่วนใหญ่ต่อสู้กับแนวคิดของคนที่ต้องการเห็นความรุนแรงเกิดขึ้นในบ้านเมือง โดยเชื่อว่าเมื่อความร่วมมือเกิดขึ้นแล้วประเทศไทยจะสามารถฝ่าวิกฤติและเข้าสู่สังคมที่มีความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ