นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุรัฐบาลยังไม่มีแนวคิดที่จะประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อดูแลกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ที่นัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 14 มี.ค.นี้ แต่จะประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา โดยปฏิเสธที่จะดำเนินการตามข้อเรียกร้องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และกลุ่ม นปช.ที่ให้ประกาศยุบสภาหรือนายกรัฐมนตรีลาออกแล้วเลือกตั้งใหม่ หากพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ชนะการเลือกตั้งทางกลุ่ม นปช.จะยุติการเคลื่อนไหว เพราะเป็นเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้
"ผมพยายามอดทนใช้กฎหมายตามขั้นตอน...ผมคิดว่าพันตำรวจโททักษิณพูดไปอย่างนั้น สิ่งที่เห็นอยู่ไม่มีหลักประกันอะไรว่าบ้านเมืองจะคืนสู่ความสงบได้ เพราะคนของพันตำรวจโททักษิณไม่เคารพกฎเกณฑ์กติกาตามแนวทางประชาธิปไตย" นายสุเทพ กล่าว
ส่วนการเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติให้ประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักรนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า หลังจากได้รับอนุมัติจาก ครม.แล้ว วันพรุ่งนี้จะมีการประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) เพื่อพิจารณาแต่งตั้งให้ตนเองเป็นผู้บัญชาการสถานการณ์ หลังจากนั้นก็จะเสนอข้อมูลและแผนปฏิบัติให้ที่ประชุมคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง(คตม.) เพื่อขออนุมัติอีกครั้งก่อนนำไปดำเนินการ
นายสุเทพ กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแลสถานที่ราชการและบ้านพักบุคคลสำคัญอย่างเต็มที่ รวมทั้งชุมชนต่างๆ ที่เคยเกิดปัญหากระทบกระทั่งกันในอดีต
ส่วนกรณีรัฐบาลจะนำ พ.ร.บ.บางฉบับ เช่น พ.ร.บ.ควบคุมน้ำมัน, พ.ร.บ.การจราจรในน่านน้ำไทย, พ.ร.บ.การแพทย์ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.เครื่องวิทยุโทรคมนาคม มาใช้ประกอบกับ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักรนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เนื่องจากเหตุการณ์ในเดือน เม.ย.52 เคยมีการนำรถบรรทุกแก๊สเข้าไปในพื้นที่ชุมชน
นายสุเทพ กล่าวว่า ประชาชนยังสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่ต้องตื่นตระหนกถึงขนาดต้องกักตุนอาหารหรือเบิกเงินสดเก็บติดตัวไว้ พร้อมกันนี้ยังปฏิเสธข้อกล่าวหาสร้างสถานการณ์ใส่ร้ายกลุ่ม นปช.