แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันการก่อเหตุรุนแรง และยึดแนวทางสันติวิธีกับผู้ที่มาร่วมชุมนุมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง โดยขอให้ประชาชนอย่าตกเป็นเหยื่อการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารและร่วมต่อต้านการใช้ความรุนแรง ขณะที่พันธมิตรฯ จะอยู่ในที่ตั้งคอยติดตามสถานการณ์ และเตรียมพร้อมเคลื่อนไหวทันทีตลอดเวลาหากได้รับสัญญาณจากแกนนำ
"รัฐบาลจะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่เพื่อป้องปรามความรุนแรงทุกรูปแบบ ยึดมั่นแนวทางสันติวิธี ไม่ใช้ความรุนแรง แยกผู้บริสุทธิ์ออกจากแกนนำที่มีวาระซ่อนเร้นและหลอกใช้ประชาชนเป็นเหยื่อทางการเมือง...ในส่วนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ในช่วงเวลาดังกล่าว แต่อยู่ในที่ตั้งติดตามสถานการณ์ และเตรียมพร้อมเคลื่อนไหวทันทีตลอดเวลา โดยให้รอคำประกาศต่อไป" นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อ่านแถลงการณ์ของพันธมิตรฯ
ที่ประชุมพันธมิตรฯ ได้วิเคราะห์สถานการณ์แล้วเห็นว่า การเคลื่อนไหวทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับพวก พิสูจน์ให้เห็นชัดเจนว่าระบอบทักษิณยังไม่สลายไปแม้พ้นจากอำนาจ แต่พยายามเคลื่อนไหวเพื่อกลับมามีอำนาจอีกครั้ง "พฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ, แกนนำ นปช. และพรรคเพื่อไทย ที่ร่วมเกณฑ์คนมาชุมนุมจึงเข้าข่ายละเมิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 เพราะเป็นพฤติกรรมเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้จึงถือได้ว่าเข้าข่ายเป็นกบฎในราชอาณาจักร เพราะมีพฤติกรรมเข้าข่ายล้มล้างระบอบการปกครองและเป็นภัยต่อความมั่นคง" นายสุริยะใส กล่าว
แนวทางการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช.เลยกรอบและสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ปฏิเสธแนวทางสันติ อหิงสา อย่างสิ้นเชิง เพราะบรรดาแกนนำทุกระดับตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ จนถึงแกนนำมีพฤติกรรมชี้นำยั่วยุให้มวลชนก่อความรุนแรงสารพัดวิธีการ ซึ่งสวนทางกับคำประกาศของแกนนำว่าจะยึดมั่นแนวทางสันติวิธีตามรัฐธรรมนูญอย่างสิ้นเชิง
นายสุริยะใส กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของ นปช.ครั้งนี้มีความมุ่งหมายกดดันประชาชนและสังคมมากกว่าจะกดดันรัฐบาล โดยเฉพาะการประกาศให้ กทม.เป็นเมืองอัมพาต ขัดขวางการเดินทางสัญจรไปมาด้วยการปิดถนนสี่มุมเมือง เตรียมบุกทำลายสถานที่ราชการสำคัญ ซึ่งอาจกระตุ้นให้ประชาชนที่ไม่เห็นด้วยลุกขึ้นมาต่อต้าน และอาจนำไปสู่การเผชิญหน้าระหว่างประชาชนคนไทยด้วยกันเอง