นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ยอมรับว่า รัฐบาลจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการในการรักษาความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งการตรวจค้นอาวุธตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะสถานที่ราชการ หลังมีรายงานข่าวว่าการข่าวเตือนว่าจะมีการลอบวางระเบิดใน 3 จุดใหญ่และ 40 จุดย่อยในพื้นที่ กทม.ช่วงระหว่างการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)
พร้อมกับระบุว่า หากกลุ่มผู้ชุมนุมไปปิดล้อมสนามบิน รัฐบาลคงจะมีการสลายการชุมนุม เพราะรัฐบาลจะไม่ปล่อยให้มีการปิดล้อมสนามบินแน่นอน สนามบินต้องเปิดให้บริการและใช้ได้ตามปกติ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังไม่มีการประกาศให้วันที่ 12-15 มี.ค.เป็นวันหยุดราชการ สถานที่ราชการต่างๆ ยังเปิดให้บริการตามปกติ รวมทั้งทำเนียบรัฐบาล และไม่จำเป็นต้องมีการขนย้ายเอกสารออกจากทำเนียบฯ
ทั้งนี้ ในเวลา 14.00 น.วันนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศอรส.) เพื่อเตรียมการและซักซ้อมแนวทางการดำเนินงานในการดูแลการชุมนุม พร้อมทั้งเตรียมจะจัดหาเซฟเฮาส์ให้รัฐมนตรีทุกคนเพื่อรักษาความปลอดภัย โดยยอมรับว่าการตั้งคณะรัฐมนตรี 9 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดูแลสถานการณ์ เพื่อให้สามารถเรียกประชุมด่วนได้ทันทีหากมีความจำเป็น
สำหรับกรณีที่บุคคลในครอบครัวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางออกนอกประเทศ นายสุเทพ กล่าวว่า ถือว่าเป็นสัญญาณที่รัฐบาลจำเป็นต้องเพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น
ส่วนกรณีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) ออกมาระบุว่า หากรัฐบาลไม่สามารถจัดการปัญหาได้ พธม.จะออกมาเคลื่อนไหวนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ขอร้องทางพันธมิตรฯ อย่าออกมา ให้เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะดำเนินการเอง