นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดง ระบุว่า ไม่ว่ารัฐบาลจะประกาศกฎหมายด้านความมั่นคงออกมาอีกกี่ฉบับก็ไม่สามารถห้ามการชุมนุมของคนเสื้อแดงได้ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงจะได้รู้ว่าคน 1 ล้านคนนั้นเป็นเรื่องจริง รัฐบาลต้องเตรียมหาที่อยู่ใหม่เอาไว้เลย
ส่วนกรณีที่รัฐบาลออกมาให้ข่าวสร้างสถานการณ์โดยระบุว่าจะมีการวางระเบิด 3-4 จุดใหญ่ และ 40 จุดย่อย รวมทั้งเปิดประเด็นการก่อวินาศกรรมเกิดขึ้นนั้น ขอเตือนทั้งนายกรัฐมนตรี, นายสุเทพ และนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ที่ได้ร่วมคิดสร้างสถานการณ์ว่า คนเสื้อแดงจะไม่ยินยอมให้สถานการณ์กลับมาซ้ำรอยช่วงเดือนเม.ย.52
"ช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่คนเสื้อแดงแข็งแกร่งที่สุด และพร้อมที่จะแหวกด่านมาร่วมชุมนุมภายใต้รัฐธรรมนูญ ขอบอกว่าตำรวจและทหารที่ตั้งด่านสกัดประชาชน เท่ากับตำรวจทหารได้ทำผิดกฎหมายเสียเอง คนเสื้อแดงจึงมีสิทธิ์แหวกด่านทุกที่ไม่เว้นแม้แต่ด่านวังน้อย จ.อยุธยา ซึ่งเป็นด่านที่ใหญ่ที่สุด" นายจตุพร กล่าว
อย่างไรก็ดี พรุ่งนี้(11 มี.ค.) เวลา 13.00 น. ตนพร้อมคณะจะไปแสดงตนกับประธานวุฒิสภา เพื่อยื่นถอดถอนองค์คณะตุลาการสาลฎีกาคดียึดทรัพย์ ด้วยเหตุผลเดียวคือ ผู้พิพากษาจำนวน 8 ใน 9 คนกระทำผิดรัฐธรรมนูญ เพราะพิพากษานอกเหนือจากสิ่งที่รัฐธรรมนูญให้อำนาจ เพราะไม่ฟังฝ่ายนิติบัญญัติ แต่กลับไปยึดถือประกาศคณะปฏิวัติ ซึ่งเมื่อประชาชนเข้ามาร่วมชุมนุมในระหว่างวันที่ 14 มี.ค. จะเปิดเต้นท์ให้ประชาชนร่วมลงชื่อถอดถอนองค์คณะผู้พิพากษา
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า รัฐบาลนี้ถือเป็นรัฐบาลที่ใช้กฎหมายความมั่นคงถี่ที่สุด ซึ่งสะท้อนภาพรัฐบาลที่ไม่มั่นคงที่สุดและไม่ได้รับการยอมรับที่สุด
ส่วนกรณีที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่าคนเสื้อแดงมีแผนจะยึดสถานีโทรทัศน์ของรัฐนั้น ยืนยันว่าไม่มีเด็ดขาด และไม่เคยแม้แต่จะคิด พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดพื้นที่สื่อทางโทรทัศน์ทุกช่องเพื่อเปิดโอกาสให้แกนนำกลุ่มเสื้อแดงได้พูดความจริงกับประชาชน
"เราจะรอคำตอบจากรัฐบาลจนถึงวันที่ 14 มีนาคม หากรัฐบาลบอกว่าคนเสื้อแดงไม่มีสิทธิพูดผ่านทีวี ก็ขอบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่มีสิทธินั่งในทำเนียบรัฐบาลเช่นกัน" นายณัฐวุฒิ กล่าว