นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่าจะไม่มีการปิดสถานีโทรทัศน์ People Channel TV หากสถานีไม่มีการดำเนินการใดยั่วยุให้ประชาชนทำผิดกฎหมาย ขณะที่การเชิญชวนมาชุมนุมตามปกติธรรมดาสามารถทำได้ ทั้งนี้ รัฐบาลก็ขอให้ประชาชนช่วยกันกลั่นกรองข่าวสาร เพราะช่วงนี้จะพบว่ามีการปล่อยข่าวลือมากขึ้น
"ถ้าเราไม่ทำผิดกฎหมาย การเชิญชวนมาชุมนุมไม่ถือว่าผิด เราไม่ได้ห้ามให้มีการชุมนุม แต่ถ้าเชิญชวนมาทำผิดกฎหมายก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง"นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่สถานี ASTV ยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีขอความคุ้มครอง ซึ่งทางรัฐบาลได้มีการเตรียมหน่วยเคลื่อนที่เร็วไว้แล้ว และขอเตือนทุกฝ่ายอย่าเอาตัวเองเข้าไปสู่ความขัดแย้ง หากพบเหตุการณ์ไม่สู้ดีให้แจ้งมาทางเจ้าหน้าที่ได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนการทำงานของตนเอง วันพรุ่งนี้ยังคงปฎิหน้าที่ที่ทำเนียบฯ ตามปกติ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ คงจะไปปฎิบัติงานที่ศูนย์อำนวยการรักษาความเรียบร้อย(ศอ.รส.) ที่กรมทหารราบ 11 รักษาพระองค์
ขณะที่งานสำคัญของรัฐบาลในวันพรุ่งนี้ คือ การตรวจสอบเรื่องของการคมนาคม เพราะถือว่าเป็นวันแรกที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะเริ่มเคลื่อนขบวนเข้ามาในกทม. ส่วนวันที่ 13-14 มี.ค.ต้องดูการชุมนุมเป็นหลัก เพราะเชื่อว่าจะมีผู้คนมาเป็นจำนวนมาก และในวันที่ 15 มี.ค.จับตาดูว่าการชุมนุมจะจบหรือไม่
ส่วนการที่แกนนำนปช.ประกาศจะแหกด่านสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่นั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การตั้งด่านไม่ได้เป็นการสกัดไม่ให้เข้ามาร่วมชุมนุม เพียงแต่ป้องกันการแทรกซ้อนจากปัจจัยอื่น เช่น คนต่างด้าวที่อาจมาร่วมชุมนุม หรือ อาจมีคนใช้สิทธิสวมรอยขนยาในช่วงเวลานี้
พร้อมย้ำว่า รัฐบาลไม่พยายามสร้างเงื่อนไขที่นำไปสู่ความขัดแย้ง ส่วนปัจจัยแทรกซ้อนที่รัฐบาลมีความกังวล คือ การที่มีคนบางกลุ่มต้องการให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งรัฐบาลจะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น