ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เปิดเผยผลสำรวจเรื่องการเมืองไทยในช่วงชุมนุมใหญ่ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ในกทม. 41.7% รู้สึกเบื่อหน่ายและเซ็งกับการชุมนุมมากที่สุด ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ยังเชื่อว่ากลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนจะชุมนุมอย่างสงบ และบางส่วนจะใช้ความรุนแรง
คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ถึง 60.6% ไม่มั่นใจว่ารัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงจะสามารถควบคุมสถานการณ์การชุมนุมไม่ให้เกิดความรุนแรงได้ พร้อมเห็นว่าผู้ที่เป็นต้นเหตุทำให้การเมืองไทยมีความร้อนแรงมากขึ้นในช่วงระยะนี้คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และกลุ่ม นปช. รองลงมาคือ กลุ่มมือที่สามที่ฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์
ทั้งนี้ประชาชน 46.6% ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารยึดอำนาจแม้เหตุการณ์จะรุนแรงถึงขั้นนองเลือด โดยประชาชน 39.2% เชื่อว่าการชุมนุมครั้งนี้จะจบลงด้วยการยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ ขณะที่ 23.8% เชื่อว่ารัฐบาลชุดเดิมจะได้บริหารประเทศต่อไป มีเพียง 4.1% ที่เชื่อว่าจะมีการรัฐประหารยึดอำนาจ
ผลสำรวจยังพบว่า หากมีการยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ บุคคลที่คนกรุงเทพฯ จะเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี อันดับแรก 33.2% คือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อันดับสอง 23.0% ระบุว่ายังมองไม่เห็นใครที่เหมาะสม และอันดับสาม 22.1% ระบุว่าเป็นพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
อนึ่งผลสำรวจดังกล่าว มาจากการสอบถามความคิดเห็นประชาชนในเขตกรุงเทพฯ 1,226 คน ตั้งแต่วันที่ 10-11 มี.ค.53