นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่สนใจคำขู่ของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดงที่ขู่จะยกระดับการชุมนุมในวันที่ 15 มี.ค.ด้วยการนำกลุ่มเสื้อแดง 1 ล้านคนปิดถนนทั่วกรุงเทพฯ หากนายกรัฐมนตรีไม่ยอมยุบสภาหรือลาออก โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่าการวิธีข่มขู่ดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง อีกทั้งเป้าหมายที่แท้อาจไม่ได้ต้องการเพียงแค่ให้รัฐบาลยุบสภา ส่วนการตัดสินใจยุบสภาจะเกิดขึ้นหรือไม่นั้น จะขอพิจารณาโดยยึดผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง
"รัฐบาลจะไม่อยู่ภายใต้ภาวะให้ใครมาข่มขู่ หากมีข้อเรียกร้องตามสิทธิรัฐธรรมนูญ รัฐบาลจะฟังและพิจารณา แต่ถ้าใช้วิธีการข่มขู่คงไม่ถูกต้อง...คุณณัฐวุฒิ พูดเองว่าการยุบสภาเป็นเพียงหลักกิโลแรก ไม่ใช่หลักกิโลสุดท้าย ซึ่งการจะตัดสินใจยุบสภา ผมจะดูผลประโยชน์โดยส่วนรวม" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มีการประสานงานระหว่างรัฐบาลกับแกนนำกลุ่ม นปช.ต่อการดูแลความเรียบร้อยในการชุมนุม โดยนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช. ได้ซักซ้อมทำความเข้าใจร่วมกันในการดูแลความเรียบร้อยของการชุมนุม ซึ่งตนได้ฝากเสนอแนวคิดผ่านไปว่าควรมีการตั้งจุดร่วมกันระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ในการตรวจค้นอาวุธในระหว่างที่มีการชุมนุม
"วันนี้มีความก้าวหน้าบางเรื่อง ทางเลขาธิการนายกฯ ได้พูดคุยกับหมอเหวง ซึ่งผมได้เสนอแนวคิดว่าควรจะมีมาตรการตรงกันในการตรวจตราอาวุธ ซึ่งได้เริ่มพูดคุยกันว่าจะมีความร่วมมือกันได้อย่างไรบ้าง" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า จากการนัดรวมตัวของกลุ่มเสื้อแดงพื้นที่ 5 แห่งในกรุงเทพฯ วันนี้ ยังไม่มีการรายงานเหตุการณ์ผิดปกติเข้ามา ส่วนเหตุระเบิดหลายจุดใน จ.สุราษฎร์ธานีนั้น ได้รับทราบการรายงานเบื้องต้นแล้ว และยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเหตุระเบิดดังกล่าวจะนำมาเชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงหรือไม่ อีกทั้งยังไม่ได้รับรายงานว่าอาวุธสงครามที่หายไปจากคลังแสง จ.พัทลุง จะเชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ(ศอ.รส.) ซึ่งตั้งอยู่ที่กองพันทหารราบที่ 11 มหาดเล็กรักษาพระองค์(ร.11 รอ.) และจะติดตามสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงอยู่ที่นี่ตลอดรวมทั้งวันที่ 13-14 มี.ค.ด้วย